เริ่มแล้วสําหรับการเดิน รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (MRT Yellow Line) ช่วงลาดพร้าว – สําโรง อินซ์ปี้ จะพาไปส่องราคาที่ดิน ในย่านนี้ช่วงต้นปี 2566
สําหรับสายนี้ได้เปิดงานทดลองใช้เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา และเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ฟรีถึง 13 สถานี (จริง ๆ มี 23 สถานี) ได้แก่ หัวหมาก, กลัน, นครหลวง ด่าน 38, สวนหลวง ร.9, ศรีอุดตัน, อุดม, ศรีลาซาล, ศรีแบริ่ง, ศรีศรีพา, พวัล และ สําโรง
ที่ผ่านมาระหว่างช่วงการก่อสร้าง ก็มีข่าวเกี่ยวกับที่ดินในย่านนั้นที่มีการปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงโครงการอสังหาฯ ที่เข้ามาซื้อพื้นที่ติดรถไฟฟ้าเพื่อสร้างคอนโดในราคาที่หลากหลาย เพราะเล็งเห็นว่าจะเป็นทำเลแห่งใหม่ ที่น่าลงทุน เพราะสามารถเชื่อมต่อย่านรัชดาได้อย่างสะดวก ปรับเปลี่ยนสภาพจราจรที่หนาแน่น และสะดวกต่อการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนมากยิ่งขึ้น
มาดูกันว่าสถานีไหน ที่ราคาที่ดินพุ่ง
กรมการขนส่งทางราง เผย ยอดผู้ใช้งานแตะหลักแสนใน 3 วันหลังเปิดตัวทำการ ด้านศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้ามีการปรับราคาขึ้นทุกปี แต่ในปี 2566 มีการปรับราคาเฉลี่ย 6%
ซึ่งสถานีที่มาการปรับขึ้นใน 9 สถานี ที่ราคาที่ดินสูงสุด
ที่มาข่าวจาก www.springnews.co.th/news/hot-issue/839554
ซึ่งก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า ลาดพร้าว อาจจะเป็นทำเลราคาดีที่สุด เพราะใกล้กับแยกรัชดา – ลาดพร้าว และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว แต่เพราะมีกฎหมายผังเมืองเรื่องการจำกัดความสูง และต้องรอการปลดล็อกผังเมืองใหม่
กลายเป็นว่าโซนบางกะปิมีการปรับราคาอยู่ที่ 300,000 บาทต่อตารางเมตร และอีกทำเลคือสำโรงคือ 400,000 – 130,000 บาทต่อตารางเมตร เปรียบเทียบ 10 ปีที่ผ่านมาราคาอยู่ที่ 70,000-80,000บาทต่อตารางเมตร ต่อมาขยับขึ้นเป็น 120,000-130,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนผลตอบแทนจากการเช่า (Rental Yield) อยู่ที่ 4% กำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) อยู่ที่ 3.5-4% ถือว่าคุ้มทุนตามเกณฑ์มาตรฐานแต่ไม่หวือหวาเหมือนโซนอื่นที่ทำได้ 5-6%
ในอนาคต รถไฟฟ้าสายสีเหลือง อาจจะมีบริษัทอสังหาฯ และเดเวอลอปหลายเจ้าอาจจะเข้ามาพัฒนาทำเลที่น่าสนใจ แห่งนี้กันมากขึ้น
ที่มาข่าวจาก : www.bangkokbiznews.com/property/1071502
บทความอื่น ๆ
