ในเดือนพฤษภาคม มีการ เลือกตั้ง ครั้งใหญ่ในการหานายกคนใหม่ ของประเทศไทยในวันที่ 13 – 14 พฤษภาคม 2566 หลายพรรคการเมืองต่างหาเสียง รวมถึงการใช้ ป้ายหาเสียง นำเสนอนโยบายต่าง ๆ เป็นรูปแบบที่นักการเกือบทุกพรรคเลือกใช้
หากคุณนั่งหรือผ่านตามท้องถนน ต้องสะดุดตากลับป้ายหาเสียงจากหลากกหลายพรรคการเมือง ติดเรียงราย ยิ่งช่วยใกล้วันเลือกตั้ง Inzpy บอกเลยว่าหันไปทางไหนคุณต้องสะดุดตาและอ่านนโยบายที่พวกเขาต้องการบอกอย่างแน่นอน คนรุ่นใหม่หลายคนไม่ชอบวิธีนี้ เพราะนอกจากจะเป็นขยะแล้ว ยังบดบังทัศนียวิศัยในการขับขี่รถ หรือคนที่ต้องเดินบนฟุตบาตประเทศไทย
หลังปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 2566 ไม่กี่ชั่วโมง ประชาชนที่ได้รับจ้างจากมาตะเวนเก็บในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายก็เริ่มทยอยเก็บ ป้ายหาเสียง ของพรรคการเมือง
ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่สามารถเก็บป้ายไว้เองได้ถือว่าผิดกฎหมาย จะเข้าข่ายทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถือว่าลักทรัพย์ยกเว้นเจ้าของป้ายไม่ติดใจเอาความ เพราะป้ายหาเสียงเป็นทรัพย์สินของผู้สมัคร ส.ส. ป้ายต้องเก็บเอง
หรือในปี 2562 รถขยะของเทศกิจจะตามเก็บป้ายเหล่านี้หากถูกปล่อยทิ้งไว้ แต่ต้องมีการสอบถามก่อนว่าจะมีการนำไปใช้ประโยชน์อะไรไหมก่อนทิ้ง
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นกองขยะขนาดใหญ่ ซึ่งป้ายไหนที่ทิ้งแล้ว ชาวบ้านท้องถิ่นนั้น ๆ จะเอามาดัดแปลงเป็นที่กันแดด ผ้าปูโต๊ะ และอีกหลายไอเดียที่เอามาใช้ประโยชน์ ซึ่งการเอาไปทำประโยชน์อื่นของประชาชน หากเจ้าของป้ายไม่ได้เป็นการสัญญาว่าจะให้ ถือว่าไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้งค่ะ
ขณะที่ กกต.ยังไม่ได้ระบุวันเวลาการเก็บป้ายที่ชัดเจน แต่หากผู้สมัครไม่เก็บป้าย เจ้าหน้าที่พื้นที่ กทม. หรือ เทศบาล จะเป็นผู้จัดเก็บเรียกค่าใช้จ่ายในการเก็บพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายรักษาความสะอาด
พรรคก้าวไกล ที่ทีมงานได้ถ่ายบรรยากาศการเก็บป้ายล่วงหน้าถึง 2 วันก่อนเลือกตั้งจริง ลงโซเชียลสุดฮิตอย่าง TikTok ไปดูวิธีการเก็บของพวกเค้ากันได้เลยค่ะ
@meowfluffyy31 ติดป้ายช้า แต่เก็บไวกว่าชาวบ้าน😆 #ด้อมส้ม #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ #ทนายป๊อกก้าวไกล #พ่อรักส้ม #วีรนันท์ฮวดศรี #ก้าวไกล #ช่างภาพทนายป๊อก #พรรคก้าวไกล #ขอนแก่น #tiktokthailand #ฟ้าของพ่อ #สุดหล่อมาแล้ว #ทีมงานคุณภาพ #ทีมงานพรรคก้าวไกล
ตอนนี้ก็มารอลุ้นกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ว่าเราจะได้ผู้นำจะนำพาประเทศของเราไปในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นความหวังเหมือนกับที่เราได้เลือกไว้ หรือการจัดการบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร