รวมเคล็ดลับ และการดูแลไทรใบสักให้สวยปัง!
เชื่อว่าหลายคนคงเคยหัวเสีย กับการซื้อต้นไทรใบสักมาปลูก จากใบเขียวมันขลับ ตั้งอวดโชว์ที่บ้านงดงาม… ไม่กี่วันกลับกลายเป็นไทรใบสุก! แห้ง… กรัง พร้อมใจกันร่วงกราวทีละใบ สองใบ จนเหลือแต่ก้านแห้ง ๆ ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ถ้าใครเจอประสบการณ์เช่นนี้ หรือกำลังคิดจะปลูกไทรใบสัก เอาเป็นว่าเราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับพันธุ์ไม้ชนิดนี้ให้ถ่องแท้ พร้อมกับวิธีการดูแล เพื่อให้คุณนำไปใช้ นำไปปฏิบัติ จะได้ไม่แป๊ก ไม่หัวเสียกันทีหลัง…
ลักษณะทั่วไป และจุดเด่นเฉพาะของ ไทรใบสัก
“ไทรไบสัก” หรือ “Fiddle leaf fig” (ชื่อวิทยาศาสตร์ Ficus lyrata ) เป็นพืชเขตร้อนชื้น ลำต้นสูง เสน่ห์ของนางอยู่ตรงใบหยักพริ้ว ขนาดใหญ่ (พลังใบที่แท้ทรู…) เผยความเขียวครึ้มสวย มอบความรู้สึกชื่นตาจำเริญใจ เป็นต้นไม้ที่รักแสงแดด ทว่าสามารถอยู่ได้ในแสงรำไร แถมไม่ต้องการน้ำชุ่มเกินไป
ส่วนอีกจุดเด่นหนึ่งของไม้พันธุ์นี้คือ สามารถดูดสารพิษ และฟอกอากาศให้สะอาดสดชื่นได้ ดังนั้นจึงนิยมนำมาใส่กระถางจัดวางตั้งไว้ในบ้าน อาทิ ริมระเบียง ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องทำงาน (หรือพื้นที่โซนติดหน้าต่างที่แสงแดดสามารถส่องถึง)เพื่อช่วยขับเน้นให้พื้นที่ภายในดูงามตา ที่สำคัญตกแต่งเข้ากับบ้านได้หลากหลายสไตล์อีกด้วย
สำหรับราคาต้นไทรใบสัก จะแตกต่างกันไปตามขนาด ปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป ซึ่งไทรใบสักที่ขายกันส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบปักชำ ทำให้ต้นไม้ไม่แข็งแรงเท่าที่ควร เสี่ยงต่อการตายได้ง่าย แต่หากเป็นแบบเพาะปลูกด้วยเมล็ด ก็จะทำให้เติบโตได้สมบูรณ์ แต่ใช้เวลานาน
รวมถึงหลายคนอาจจะชินตากับต้นไทรใบสักที่ความสูงตั้งแต่ 40 ซม. – 2 เมตร แต่แท้จริงแล้ว มันเป็นไม้ยืนต้นที่สูงได้ถึง 12-14 เมตรเลยทีเดียว หากนำปลูกลงดินนั่นเอง แต่ก็นานเอาเรื่องอยู่กว่าจะโต เพราะปีหนึ่งจะเจริญเติบโตเพียง 5-10 ซม.เท่านั้น
*เคล็ดลับ (+ข้อควรรู้) เพื่อใบสวยอยู่ได้นานวัน
แดดรำไรคือ อาหารโปรด
ไทรใบสัก หากโดนแดดโดยตรงแรง ๆ เป็นเวลานาน จะทำให้ใบเป็นจุดสีน้ำตาลได้ ดังนั้นหากคุณปลูกมันลงกระถาง ก็ควรหาที่วางที่มีปริมาณแสงที่เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 3-5 ชั่วโมง เพราะถ้าแสงน้อยเกินไป จะส่งผลให้ใบหลุดร่วง รวมถึงใบของมันจะพยายามโน้มเอียงไปหาทิศทางที่มีแสง จึงทำให้ลำต้นไม่ตั้งตรง ฉะนั้นผู้ปลูกควรหมั่นหมุนไทรใบสักให้หันรับแดดทุกด้าน หรือหากไว้ในสวน แนะนำให้วางไว้ใต้ร่มไม้ใหญ่ เพื่อรับให้แสงแดดถูกกลั่นกรอง จากร่มไม้ ก็จะทำให้ใบแผ่กิ่งก้านสวยงดงาม
ความชื้น คือ มิตรเทียม
บอกเลยว่าต้นไม้พันธุ์นี้ ชอบน้ำชุ่มแต่ไม่ชื้นแฉะ ฉะนั้นควรระวังอย่ารดน้ำมากเกินไป และควรหมั่นดูไม่ให้มีน้ำขังในจานรองกระถาง เพราะจะทำให้รากเป็นเชื้อราและเน่าในที่สุด สำหรับความถี่ของการรดน้ำ ขึ้นอยู่กับปริมาณแสงที่ต้นไม้ได้รับ อาจจะประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือ… รดจนมั่นใจว่าน้ำซึมถึงก้นกระถาง จากนั้นปล่อยไปสัก 3-4 วัน ค่อยมาเช็คความชื้น โดยทริคเข้าใจง่าย ๆ คือ เอานิ้วจิ้มลงไปในดินสักครึ่งนิ้วชี้ ถ้ายังชื้นอยู่ ก็ยังไม่ต้องรดนั่นเอง
ตัดแต่ง และทำความสะอาด คือ ดี…
ผู้ปลูกควรหมั่นตัดแต่งกิ่งและใบแก่ เพื่อเสริมการแตกแขนง และคงความเป็นทรงพุ่ม รวมถึงควรหมั่นทำความสะอาดคราบฝุ่นละอองที่ติดอยู่ตามใบ โดยใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำเช็ดด้านบนของใบ ทั้งนี้เพื่อให้ใบสามารถหายใจ และสังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น (อย่าเช็ดด้วยมือเปล่า! เพราะใบจะมียางอาจทำให้คุณแพ้ได้) แต่ถ้าอยากให้ใบดูเข้ม และมันวาว แนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวเช็ดเคลือบใบบาง ๆ
ตัดแต่งราก เพิ่มความแข็งแรง
สำหรับไทรใบสักเป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตช้า ดังนั้นควรตัดรากทุกปี หรือ 2 ปี เพราะถ้าเราปลูกในกระถาง รากจะขยายตามขนาดภาชนะ เมื่อรากเจริญเติบโตในภาชนะขนาดเล็ก ๆ จึงต้องนำออกมาตัดราก หรือเปลี่ยนภาชนะให้พอดีกับขนาดต้นไม้ ควรเลือกกระถางใหม่ให้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่าภาชนะเดิม 1-2 นิ้ว จะช่วยรักษารากให้แข็งแรงขึ้น
อย่าลืมใส่ปุ๋ยให้น้อง!
ควรใส่ปุ๋ยละลายช้า (Slow-release fertilizer) สัปดาห์ละครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้ปุ๋ย ค่อย ๆ ปล่อยธาตุอาหารพืชออกมาทีละนิด ๆ ทำให้ต้นไม้ได้รับธาตุอาหารอย่างสม่ำเสมอ จึงจะมีความสมบูรณ์ แถมช่วยลดปัญหาการดูดความชื้นของปุ๋ยนั่นเอง
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับหัวข้อ รวมเคล็ดลับ และการดูแลไทรใบสักให้สวยปัง! ที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นข้อมูลดี ๆ ย่อยง่าย ๆ ให้ผู้ที่ชื่นชอบไม้พันธุ์นี้ นำไปใช้เป็นความรู้ในการดูแลกันนะครับ จัดไปเล้ยยยย
อัปเดตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทาง LINE ฟรี
Add friend ที่ ID : @inzpy (มี@นำ)
บทความน่าสนใจ : ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ปรับโฉมบ้านแบรนด์ Lanceo รับเทรนด์ยอดนิยม