Chinese design ดีไซน์สุดเก๋แบบสไตล์จีน
Chinese design ดีไซน์สุดเก๋แบบสไตล์จีน ในช่วงเทศกาลตรุษจีนหลาย ๆ คนก็คงอยากพาครอบครัวไปทานอาหารอร่อย ๆ ถ่ายรูปพร้อมกันทั้งครอบครัว แต่จะไปแบบร้านที่ดีไซน์ธรรมดาได้ไง ก็ต้องเข้า ‘ธีม’ เทศกาลจีนกันสะหน่อย ในช่วงเทศกาลของคนไทยเชื้อสายจีนให้บรรยากาศเล่าเรื่องราวดีกว่า วันนี้ Inzpy ได้นำดีไซน์ร้านสุดชิค อาร์ต ๆ คลาสสิก มาแชร์เพื่อน ๆ กันจ้า
Patina Bangkok ดีไซน์คลาสิกสะท้อนกลิ่นอายวินเทจแบบไทย และ จีนผสมผสานกันได้ลงตัว เอกลักษณ์ของร้าน คือ ผนังกำแพง และ เสาบ้านที่เผยให้เห็นพื้นผิวปูน และ สีเดิมที่ลอกหลุด กลายลวดลายประติมากรรมแห่งกาลเวลาที่สวยเท่ ที่นี่เปิดให้บริการคาเฟ่นั่งชิล และ มีมุมนั่งชิลล์ อย่างมุมสโลวบาร์ โดยคัดสรรเมล็ดกาแฟไทยเบลนด์กับเมล็ดกาแฟบราซิล มีมุมชิคกับอาคารและผนังกำแพง ให้ได้เก็บภาพสไตล์ฮิปถูกใจกันเลยทีเดียว
เดิมบ้านหลัง มีชื่อว่า บ้านรัชต์บริรักษ์ เป็นเรือนแถวสถาปัตยกรรมจีนที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และถูกทิ้งร้างไว้เป็นเวลานาน ภายหลังถูกเปลี่ยนชื่อเป็น บ้านเหลียวแล และนำมาปรับโฉมโดยตัวร้านแบ่งเป็นสัดส่วน และ ยังคงโครงสร้างอาคารเดิมเอาไว้ทั้งหมด ทั้งประตูทรงโค้งสไตล์จีน บล็อกอิฐลายจีนและหลังคาจั่ว พื้นที่ในส่วนแรก คือ เคาน์เตอร์บาร์กาแฟแบบร่วมสมัย เสริมด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจทั้งโต๊ะและเก้าอี้ไม้
ประดับด้วยภาพถ่ายวิวทิวทัศน์หลายภาพเพิ่มสีสันบริเวณผนังเก่าให้มีชีวิตชีวาขึ้น แค่เดินผ่านโซนหน้าร้านจะเจอพื้นที่กลางแจ้งขนาบด้วยบรรากาศรอบนอกแบบ ตึกเก่า ด้านบนเป็นช่องว่างให้แสงส่องลงมา มองไปมุมไหนก็เห็นพื้นผิวของผนัง รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์เก่า ที่สีหลุดลอกไปตามกาลเวลา กลายเป็นเสน่ห์น่าค้นหา และ เป็นเอกลักษณ์ ตรงกลางมีเก้าอี้ทรงสูงวางไว้ริมกำแพงให้โพสต์ท่าถ่ายรูป กลายเป็นมุมซิกเนเจอร์ที่ต้องมาแชะภาพโพสต์ลงไอจีรัว ๆ เลยล่ะ
103 Bed and Brews อีกหนึ่งย่านฮิปบนเส้นถนนเยาวราชที่ยังคงเสน่ห์ในเรื่องของความหลากหลาย แหล่งรวมคาเฟ่ แกลเลอรี่ และ บาร์เท่ ๆ มากมาย ทั้งร้านเก่า ร้านใหม่ให้ได้ตามไปเช็คอินกันอยู่เรื่อย ๆ หนึ่งในนั้นคือ 103 Bed & Brews คือ ร้านกาแฟแบบคลาสสิก และ โฮสเทลเปิดใหม่ที่ทางร้านได้ออกแบบ ที่ตกแต่งได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยมนต์เสน่ห์ความเป็นเอกลักษณ์ของซอยนานานั้นเอง แต่เดิมเคยเป็นตรอกขายยาจีนหรือยาสมุนไพร มาออกแบบ และ ตกแต่งในลักษณะของโรงน้ำชา
ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิก ที่เก็บรายละเอียดความสวยงามของสถาปัตยกรรมไทย-จีนยุคสมัยนั้นไว้ไม่ว่าจะเป็นประตูบานเฟี้ยมแบบจีน ประตูเหล็ก ช่องลมโบราณ โต๊ะไม้ เก้าอี้กลม รวมถึงกระด้งบรรจุสมุนไพรจีน ที่สื่อถึงวิถีชีวิตของคนย่านนั้นได้เป็นอย่างดี โดยพื้นที่ด้านล่างจัดให้เป็นโซนคาเฟ่-ร้านกาแฟ ส่วนพื้นที่ด้านบนจัดให้เป็นที่พักในรูปแบบของโฮสเทลที่ให้ความรู้สึกแบบย้อนความรู้สึกไปในสมัยก่อน
Ba Hao Tian Mi ‘ปาเฮ่าเถียนมี่’ ณ ใจกลางเมืองอย่างย่านทองหล่อ ในการดีไซน์ในสไตล์โมเดิร์นผสมผสานได้มีการนำสัญญาลักษณ์บางอย่างอย่างสไตล์จีนเยาวราช มาถ่ายทอดศิลปะ วัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็น คาน์เตอร์บาร์หินขัด, เก้าอี้นั่งทรงกลมสไตล์จีน, โซนครัวเปิดที่ให้กลิ่นอายของร้านสตรีทฟู้ด และตู้แช่พุดดิ้งตามสไตล์ร้านโชห่วยย่านเยาวราช เป็นต้น
ในท่ามกลางบรรยากาศเงียบ ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แนวความคิดของทางร้านในการออกแบบก็คอนเซ็ปตืที่แตกต่างกัน เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และ โลเคชันร้าน พร้อมคงความเป็น Ba Hao Tian Mi เอาไว้เช่นเดิม การตกแต่งร้านจึงเลือกนำเสนอในสไตล์ Modern Chinese ซึ่งมีความทันสมัยมากขึ้นแต่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความเป็นจีน รวมถึงเพิ่ม element และ visual บางอย่างที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศร้านอาหารแนวสตรีทของฮ่องกง ที่ส่วนใหญ่ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของทีมผู้ก่อตั้ง Ba Hao Tian Mi ทั้งสิ้น ก่อนจะนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการให้เข้าเมืองไทยมากสุด เรียกว่ามีความเรียบแต่แฝงกลิ่นอายของความเป็นสไตล์จีนได้อย่างลงตัวเลยล่ะ