Anantara World Islands รีสอร์ทแห่งแรก! บนหมู่เกาะเดอะเวิลด์ ที่ดูไบ
สวย และอลังการเว่อร์… สำหรับ อนันตรา เวิลด์ ไอส์แลนด์ (Anantara World Islands) ซึ่งล่าสุดทางอนันตรา ได้ทำการเปิดตัวขึ้นที่ หมู่เกาะเดอะเวิลด์ ของดูไบ พิกัดตรงบริเวณอ่าวอาระเบียน ห่างจากชายฝั่งเพียง 4 กิโลเมตร แถมนับเป็นรีสอร์ทแห่งแรกของโครงการพัฒนาโรงแรมในทวีปอเมริกาใต้ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของนักเดินทาง และสร้างเป็นจุดสนใจแห่งใหม่ของเมือง
ซึ่งสามารถเดินทางจากท่าเรือของอนันตรา เดอะปาล์ม ดูไบ รีสอร์ท (Anantara The Palm Dubai Resort) ด้วยสปีดโบ้ทมายัง อนันตรา เวิลด์ ไอส์แลนด์ ที่ใช้เวลาเพียง 15 นาที แถมนอกจากจะได้สัมผัสความเงียบสงบชวนผ่อนคลายบนเกาะเดอะเวิลด์ได้อย่างเต็มที่แล้ว ที่นี่ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงาม ตึกระฟ้าอันเลื่องชื่อ อย่างเบิร์จ คาลิฟา (Burj Khalifa) และ เบิร์จ อัล อาหรับ (Burj al Arab) ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของดูไบได้อีกด้วย
สำหรับ อนันตรา เวิลด์ ไอส์แลนด์ มาพร้อมการให้บริการห้องพักหลากหลายรูปแบบ มีทั้งสวีท บีชวิลล่า และพูลวิลล่าถึง 70 หลัง ทุกห้องมีขนาดใหญ่ เผยการดีไซน์ระเบียงที่กว้าง
โดยพูลวิลล่าส่วนตัว (จำนวน 40 หลัง) แบ่งเป็นขนาด 2 ห้องนอน รองรับผู้เข้าพักได้สูงสุด 8 ท่าน และขนาด 4 ห้องนอนรองรับได้สูงสุด 12 ท่าน มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ออกแบบแบ่งโซนรับประทานอาหารให้อยู่ด้านนอก เชื่อมต่อทางเดินลงสู่หาดจากห้องพักส่วนตัว (โอ้ววว)
แถมภายในวิลล่าเน้นโทนสีอ่อนเรียบหรูของเทอร์ควอยซ์ และเฟอร์นิเจอร์หวาย ที่สำคัญวิลล่าส่วนใหญ่มีห้องอาบน้ำกลางแจ้งแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ที่เต็มไปด้วยร่มรื่น
นอกจากนี้ ที่นี่ยังได้ดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางไว้น่าสนใจหลายจุด อาทิ จุดชมภาพยนตร์ใต้แสงดาว ณ ปลายหาดทราย บริการ HamacLand เลานจ์ลอยน้ำอันหรูหราทันสมัย (เป็นรีสอร์ทแห่งเดียวในดูไบ ที่ให้บริการนี้) ที่มีเปลไว้สำหรับนอนเล่น รวมถึงมีการจัดเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มบริการเหนือระดับ อีกทั้งยังมีบริการล่องเรือเที่ยวชมธรรมชาติรอบหมู่เกาะ
ส่วนไฮไลต์ในเรื่องการกิน-ดื่มในรีสอร์ท ต้องยกให้กับ กามาร์ (Qamar) ห้องอาหารอาระบิก-อินเดียน ตกแต่งระเบียงขนาดใหญ่หันไปทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยที่สุด แถมมีอาหารทะเลสดใหม่หลากหลายรสชาติให้ได้ลิ้มลอง พร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นฉ่ำ หรือรสชาติชิชาร์อันหอมหวานสดชื่น…
เฮลิออส (Helios) ห้องอาหารเมดิเตอร์เรเนียนในบรรยากาศสบาย ๆ ที่ให้บริการมื้อเช้า อันแวดล้อมไปด้วยบรรยากาศริมทะเลอันแสนเพลิดเพลิน และ ลูน่า (Luna) บาร์สวยงามทันสมัย บริการค็อกเทลและของว่างสไตล์อเมริกาใต้ เป็นต้น
รวมถึงที่นี่ยังมีบริการห้องทรีตเมนต์ 6 ห้อง และซุ้มสปา บนชายหาด ที่นำเสนอสปาทรีตเมนต์และโปรแกรมดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ที่น่าสนใจคือเป็นการนวดเอกลักษณ์เฉพาะในแบบฉบับ ไอส์แลนด์ ลาวา เชลล์ (Island Lava Shell Massage) ซึ่งมีลักษณะการนวดด้วยลาวาร้อนจากเปลือกหอย เพื่อคลายกล้ามเนื้อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และยังมีทรีตเมนต์นวดไทย ที่ได้รับการยกย่องอีกด้วย
ที่เจ๋งคือ ภายในรีสอร์ทแห่งนี้ยังเน้นการมีพื้นที่สีเขียวอยู่ทั่วบริเวณ โดยเผยพรรณไม้กว่า 4,000 ต้น (รวมถึงต้นมะพร้าวกว่า 1,000 ต้น) ปลูกเรียงรายริมชายหาด ทำให้เป็นถิ่นอาศัยของนกหลากหลายชนิด แถมยังมีการสร้างเรือนกระจกขนาดใหญ่ไว้เป็นสถานที่เพาะปลูกผักผลไม้ไฮโดรโปนิกส์ และออร์แกนิก เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในทุกห้องอาหารของรีสอร์ท
รวมถึงเป็นรีสอร์ท ที่มุ่งมั่นการอนุรักษ์ความยั่งยืน ให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง การลดปริมาณขยะอาหาร การติดตั้งอุปกรณ์แปลงระบบแก๊สในครัว การสร้างโรงงานแปรสภาพน้ำและโรงงานผลิตขวดแก้วที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้
อีกทั้งระบบน้ำในรีสอร์ท ยังใช้เครื่องทำน้ำร้อนพลังแสงอาทิตย์แบบเทอร์โมไดนามิกส์ปั๊มควบคุมความถี่รอบมอเตอร์ (VFD) และสุขภัณฑ์ช่วยประหยัดน้ำ ตลอดจนการบำบัดน้ำเสีย เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในระบบชลประทานนั่นเอง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อนันตรา เวิลด์ ไอส์แลนด์ ( Anantara World Island) ได้ที่ www.anantara.com/en/world-islands-dubai
บทความน่าสนใจ : นิทรรศการ “What is MUJI ?”สะท้อนปรัชญาความเรียบง่าย สู่แนวทางที่ยั่งยืน
