เคลิ้มโฮลเทล 2 หลัง ดีไซน์ไทยประยุกต์ แบบวิถีชีวิตชนบท
“เคลิ้ม” โฮลเทลย่านกลางเมืองอย่างถนนเพชรบุรี ยังมีวิถีชีวิตแบบชนบทดั้งเดิมเหมือนเราอยู่บ้านต่างจังหวัดอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากการเดินทางเข้าใจกลางเมืองอย่างถนนเพชรบุรี ซอย 5 บริเวณเขตราชเทวี-พญาไทย เดินผ่านตลาดในย่านชุมชนที่แสนจะคึกคักก็เดินมาเจอกับเส้นทางรถไฟพอดี ด้วยบรรยากาศแบบบ้าน ๆ ราวกับอยู่ในเมือง
ชนบทที่ห่างไกลผู้คน ก็จะพบกับโฮลเทล บ้าน 2 หลัง ให้ความรู้สึก ‘คิดถึงบ้าน’ บรรยากาศกลิ่นอาย ชุมชน วิถีชีวิต การใช้ชีวิต เรียบง่าย
ถูกออกแบบรีโนเวตจากบ้านไม้ชั้นเดียวแบบยกสูง ผนังไม้ตีซ้อนเกล็ด ซึ่งสร้างในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือประมาณ 60 ปีที่แล้ว แตได้ถูกดัดแปลงมาเป็นโฮลเทลในย่านชุมชน ที่อนุรักษ์ความโบราณคลาสิค แบบเดิม ๆ แต่
บ้านหลังนี้เป็นแบบทรงดีไซน์ที่เราคุ้นตา เป็นแบบบ้านทรงไทยอยู่ มักออกแบบดีไซน์อยู่ตามต่างจังหวัด ที่เรามักจะเห็นบ่อย นั้นเอง เรียกว่า ยกวิถีชีวิต มาไว้ในเมืองเลยล่ะก็ให้ความรู้สึก Feel good ไปอีกแบบ..
ในย่านใจกลางเมืองแบบนี้ไม่มีใครรู้เลยว่ามีสถานที่พักผ่อนให้ความรู้สึก ผ่อนคลาย สบาย ๆ ราวกับได้อยู่บ้านแถวต่างจังหวัด อย่างไงอย่างนั้น ด้วยบรรยากาศบ้านไม้เก่าใต้ถุนที่ยกสูง 2 บรรยากาศของการออกแบบ ดีไซน์ขนาดพื้นที่ของโรงแรม (Kloem Hostel)
เคลิ้ม มันช่างขัดแย้งกับสภาพบรรยากาศข้างนอกริมทางรถไฟเหลือเกิน ด้วยความที่เจ้าของโฮลเทล อย่าง คุณแก้ม-วรรณกานต์ กิจคุณาเสถียร เจ้าของโฮลเทล สุดคลาสิคแห่งนี้บอกว่า ไอเดียที่นำบ้านมารีโนเวท 
คือการตั้งใจทำให้ เป็นสถานที่พักผ่อน และ อยากสานต่อธุรกิจครอบครัวให้ทางบ้าน และ ด้วยการเติบโตมาในที่ชุมชนแห่งนี้ จึงอยากคงไว้ด้วยสภาะเดิม ๆ ของกลิ่นอายวิถีชีวิตบรรยากาศของวิถีชุมชนมาเป็นส่วนประกอบของ
ไว้ด้วย เพื่อถ่ายทอดวิถีชีวิตของชุมชนแบบคนกรุงเทพฯ แท้ ๆ ให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัส ที่นี่จึงนำเอาจุดเด่นของพื้นที่ภายในบ้าน และ ความเป็นกันเองของชุมชนโดยรอบมาถ่ายทอดผ่านอาคารบ้านไม้ 2 หลัง
ที่เน้นการออกแบบเลือกใช้วัสดุ รวมทั้งตกแต่งให้คงกลิ่นอายจากสิ่งที่มีอยู่ก่อนจะปรับดัดแปลงให้เข้ายุคสมัย ใส่โครงสร้างเหล็กที่เป็นของใหม่เชื่อมบ้านสองหลังเข้าด้วยกันให้ได้ความคลาสสิกของยุคอดีตที่สามารถใช้งานได้จริงในปัจจุบัน
ในส่วนบริเวณด้านหน้าสุดของโฮลเทลคือส่วนของ Reception ซึ่งเมื่อเดินผ่านเข้าไปด้านในจะเห็นว่าพื้นที่ระหว่างบ้านของทั้งสองหลังถูกเชื่อมต่อกันทำให้เป็นชานพักแสนร่มรื่น มีเปลญวนขนาดเล็กวางอยู่ตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เข้า
พักได้มีเวลาพักผ่อน แบบส่วนตัว ไม่ว่าจะนอนเล่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ไปกับบรรยากาสที่แสนจะร่มรื่น สบายอารมณ์สุด ๆ ให้ความรู้สึกได้ดีเลยที่เดียว แม้ว่าภายนอกบ้านนั้นจะร้อนแค่ไหน เพียงแค่ได้มาพักผ่อนในบ้านหลังนี้ ก็จะช่วยเยียวยาจิตใจให้ เคลิ้ม และ หลงใหลไปกับบ้านหลังนี้แน่นอน 
โฮลเทลแห่งนี้ตั้งอยู่ในชุมชนชาวไทย จีน และ มุสลิมที่อยู่รวมกันอย่างสันติ เพราะ ฉะนั้นแขกที่เข้ามาพักจึงได้สัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนของคนกรุงเทพ ฯ ต้องการเปลี่ยนมุมมองภาพลักษณ์ใหม่ให้กรุงเทพ ฯ เป็นที่น่าจดจำใน
ในสายตานักท่องเที่ยวว่าสถานที่แบบนี้คือวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของคนกรุงเทพฯ สามารถซึมซับภาพความประทับใจแบบนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลไปถึงต่างจังหวัด มาพักที่นี่จะได้เห็นไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของ
ผู้คนละแวกนี้ สัมผัสถึงความเป็น Street Style มีหลากหลากกิจกรรมให้เลือกทำ มีมิตรภาพที่ดี เห็นความเป็นชุมชนเข้มแข็งที่ชาวบ้านทุกคนยังคงรักษาอัตลักษณ์ของที่นี่ไว้ได้เช่นเดิม
