More

    ติดหวานเกินไป ลดยังไง? ไม่ให้ซึม (เศร้า)

    ติดหวานเกินไป ลดยังไง? ไม่ให้ซึม (เศร้า) ขนมหวานและเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างชานมไข่มุก หรือน้ำอัดลม แม้จะเป็นของที่ดีต่อใจ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน แต่จากการสำรวจของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าคนไทยมีพฤติกรรม “ติดหวานเกินไป” กินน้ำตาลเฉลี่ยวันละ 25 ช้อนชา มากกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้ที่ไม่เกินวันละ 6 ช้อนชาถึง 4 เท่า ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพของคนไทย ซึ่ง นพ.ณชารินทร์ พิภพทรรศนีย์ จิตแพทย์
    โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจไว้ว่า

    “กินหวาน” ทำไมถึงฟิน

    ติดหวานเกินไป

    นั่นเพราะน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นในกระแสเลือดมีผลต่อสารสื่อประสาทและอารมณ์ในเชิงบวก ไปกระตุ้นให้หลั่งสารสื่อประสาทที่เรียกว่า “โดพามีน” ซึ่งมีหน้าที่โดดเด่นคือ ควบคุมอารมณ์ ช่วยคลายเครียด ลดอาการหงุดหงิดได้ ในเมื่อฟินกับการกินของหวานมานาน การเลิกแบบฉับพลันอาจไม่ใช่เรื่องง่าย การค่อยๆ ทยอยลดปริมาณน้ำตาลลงทีละน้อยจึงตอบโจทย์ร่างกายและจิตใจมากกว่า

    “กินหวาน” แบบไร้น้ำตาล

    ความหวานไม่ได้มาจากน้ำตาลอย่างเดียว ลองใช้น้ำผึ้งแทนจะดีกว่า เพราะเป็นน้ำตาลฟรักโทสที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลกลูโคส จึงใช้ในปริมาณที่น้อยกว่า นอกจากนี้ ยังมีสารอื่นที่ช่วยสร้างความสดชื่นและความฟินให้กับคนติดหวานได้ เช่น คนติดน้ำอัดลมก็มีทางเลือกจากเครื่องดื่มรสหวานที่ไร้น้ำตาล โดยเติมสารอื่นที่ให้ความหวานมาทดแทน

    น้ำหมักผลไม้ สดชื่นได้ไม่ต้องเติมน้ำตาล

    น้ำหมักผลไม้ หรือ Infused Water เป็นเครื่องดื่มที่นำผลไม้ ผัก หรือสมุนไพรที่ชื่นชอบ เช่น ส้ม สับปะรด มะนาว สตอเบอรี่ เป็นต้น ใส่ลงไปในน้ำเปล่า เพื่อเพิ่มรสชาติ มีความหวาน เปรี้ยวจากตัวผลไม้ที่เติมลงไปโดยไม่ต้องเติมน้ำตาล แต่สร้างความสดชื่นได้ ลดการโหยหาความหวานได้เป็นอย่างดี หรือจะกินผลไม้ที่ให้ความหวานไปเลยก็ดี เพราะไฟเบอร์ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นด้วย

    ผ่อนคลาย มีความสุขด้วย ดาร์กช็อกโกแลต

    ติดหวานเกินไป

    ดาร์กช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตดำ ตัวแทนความหวานที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ย้ำว่าต้องมีโกโก้เป็นส่วนประกอบหลักไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะสารฟลาโวนอยด์ (Flavoniod) ในโกโก้สามารถช่วยป้องกันภาวะดื้ออินซูลิน ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ที่สำคัญยังทำให้รู้สึกผ่อนคลาย มีความสุข

    ดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ ให้เพียงพอต่อร่างกาย

    ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน โดยเฉพาะในมื้อที่กินของหวาน นอกจากน้ำเปล่าจะไม่ให้พลังงานแล้ว ยังช่วยให้อัตราการเผาพลาญพลังงานแคลอรีเพิ่มสูงขึ้น เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ขับแบคทีเรียจากกระเพาะปัสสาวะ และควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้ด้วย

    ใครที่ปล่อยใจฟินกินหวานจนเกินไป หากต้องการหนีห่างจากโรคร้ายทางกายที่ยากเยียวยา แถมอาจนำพาสู่ความว้าวุ่นทางใจ คงต้องระมัดระวังเอาใจใส่กับอาหารการกินมากขึ้น และควรตระหนักด้วยว่าความหวานไม่ได้มาจากน้ำตาลเท่านั้น แต่อาหารจำพวกแป้งก็ย่อยสลายเป็นน้ำตาลด้วยเช่นกัน

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    เทรนด์อาหารมาแรง “superfood” อาหารสำหรับคนรักสุขภาพ 
    ทำความรู้จัก กรีกโยเกิร์ต ของอร่อย ดีต่อสุขภาพ

    Related Post