More

    กว่าจะมาเป็น “ไคท์เซิร์ฟ” (Kite Boarding) กีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำ

    กีฬาเอ็กซ์ตรีมสุดฮิตเวลานี้ ไม่มีอะไรเกิน “ไคท์เซิร์ฟ” (ไคท์บอร์ดดิ้ง) ที่คนไทย และต่างชาติหันมาเล่นกัน แต่ทราบหรือไม่ว่า กว่าจะมาเป็น ไคท์บอร์ดดิ้ง ต้องผ่านการวิวัฒนาการมาขนาดไหน

    ก่อนจะพูดถึงประวัติ “ไคท์เซิร์ฟ” ต้องกล่าวถึงต้นเรื่องของกีฬาทางน้ำ อย่าง “เซิร์ฟบอร์ด” หรือกระดานโต้คลื่น ที่มีจุดต้นจากชนพื้นเมืองของเกาะทางแปซิฟิก อย่างเกาะฮาวาย และเกาะตาฮิติ นำมาเล่นกันเองอยู่แล้วจากไม้กระดานที่ทำขึ้นเอง ตั้งแต่ศรรตวัตที่ 18 ทำให้ไม่มีใครทราบถึงผู้คิดค้นกระดานโต้คลื่นชนิดนี้ และเมื่อชาวยุโรปไปเห็นเข้า จึงนำมาพัฒนาไปเล่นต่อในแต่ละประเทศ

    หลังจากการเล่น “เซิร์ฟบอร์ด” แพร่หลายไปในยุโรป และอเมริกา ก็ได้มีคนคิดค้นการเล่นที่เพิ่มอุปกรณ์เข้าไปอย่าง “ร่มร่อน” หรือ “ปีกร่อน” เข้ามาผสมผสาน กับเซิร์ฟบอร์ด แต่ก็ยังไม่สำเร็จในยุคนั้น แต่กลับกลายเป็น Jim Drake ชาวอเมริกัน ที่จบวิชาการบินจากมหาลัยสแตนฟอร์ด ได้ริเริ่มคิดค้นเอาเสา และใบมาไว้บนเซิร์ฟบอร์ด และมีหางเสือ (fin) ที่ส่วนกลาง กับส่วนหาง เหมือนกับเรือข้ามมหาสมุทร ทำให้เกิดกีฬาชนิดใหม่ขึ้น เรียกว่า “วินด์เซิร์ฟ” (windsurf) เกิดขึ้นในยุค 70

    ช่วงยุคกีฬาวินด์เซิร์ฟเป็นที่นิยมอย่างกว้างขว้างอยู่หลายปี จนบรรจุเข้าสู่การแข่งขันในโอลิมปิก ก็ยังมีคนคิดค้นต่อยอดจาก “ร่มร่อน” อยู่ต่อเนื่อง จนท้ายสุด 2 พี่น้อง Bruno Legaignoux และ Dominique Legaignoux จากชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของฝรั่งเศส ได้พัฒนาว่าวสำหรับเล่น “ไคท์เซิร์ฟ” ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980 และได้จดสิทธิบัตรการออกแบบว่าวแบบเป่าลมในเดือนพฤศจิกายน 1984 ซึ่งเป็นแบบที่บริษัทต่าง ๆ นำไปใช้เพื่อพัฒนาตนเองในเวลาต่อมา

    ปัจจุบันกีฬา “ไคท์เซิร์ฟ” หรือ “ไคท์บอร์ด” เป็นกีฬาที่เล่นกันอย่างกว้างขวางทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากการขนอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเดินทางไปทะเลแต่ละที่ ง่ายกว่า “วินด์เซิร์ฟ” เพียงแค่กระเป๋าเป้ใบเดียวก็สามารถเก็บ “ร่ม” หรือ “ไคท์” ได้แล้ว และยังมีการพัฒนาไปสู่ “ไคท์ฟอยล์” (Kite Foil) ไปอีกขั้น ซึ่งได้ถูกเสนอให้บรรจุเข้าสู่โอลิมปิกต่อไป

    Squid Beach หาดผืนสุดท้าย ปากน้ำปราณ

     

    Related Post