เผยโฉม KIHA 183 รถไฟดีเซลปรับอากาศ ที่นำเข้าจาก ญี่ปุ่น ร.ฟ.ท. ได้ทำการปรับปรุงใหม่ เพื่อให้ทันช่วงฤดูท่องเที่ยว เดือนตุลาคม 2565 นี้ ใครที่อยากนั่งรถไฟเที่ยวก็เตรียมตัวกันได้เลย คาดจะปรับปรุงพร้อมให้บริการก่อนจำนวน 4 คัน ตามเส้นทางระยะสั้นไม่เกิน 300 กิโลเมตร
ใกล้เปิดตัวแล้ว หลังจากที่มีการเร่งปรับปรุงรถไฟดีเซลปรับอากาศ KIHA 183 ที่รับมาจากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR HOKKAIDO) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 17 คัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นรถดีเซลรางปรับอากาศแบบมีห้องขับสูง (High Cab) 40 ที่นั่ง จำนวน 8 คัน และ รถดีเซลรางปรับอากาศ แบบไม่มีห้องขับ 68 ที่นั่ง จำนวน 8 คัน และรถดีเซลรางปรับอากาศ แบบมีห้องขับต่ำ (Low Cab) 52 ที่นั่ง อีกจำนวน 1 คัน ซึ่งมีการส่งมอบครบเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
ตอนนี้ได้มีการทาสีตกแต่งใหม่เพิ่มเติม แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นสไตล์ญี่ปุ่น ปัจจุบันเตรียมให้บริการ 1 ขบวน ประกอบด้วยรถไฟจำนวน 4 คัน ขณะนี้ได้ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้วจำนวน 3 คัน ส่วนอีก 1 คันอยู่ระหว่างขั้นตอนการปรับปรุงสีขบวน จากการคำนวณค่าใช้จ่ายในส่วนการดำเนินการขนย้าย และค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์เพื่อใช้ในการดัดแปลงล้อ เฉลี่ยแล้วตกประมาณ 2.7 ล้านบาทต่อคัน ซึ่งคุ้มค่ากว่าการจัดซื้อตู้โดยสารใหม่ที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 80-100 ล้านบาทต่อคัน ทำให้การรถไฟสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 400 เท่า
โดยได้มีการนำมาทดลองใช้บนเส้นทางสถานี มักกะสัน-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก พบว่าการทดลองใช้เป็นไปได้ด้วยดี ไม่ติดปัญหา สำหรับการวิ่งด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหลังจากมีการทดลองประสิทธิภาพของรถไฟดีเซลรางปรับอากาศในชุดแรกเสร็จสมบูรณ์ การรถไฟฯ ก็จะเร่งปรับปรุงคันอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้สามารถเปิดใช้บริการได้เต็มรูปแบบภายในช่วงปลายปี 2566
ใครที่อยากลองนั่งรถไฟ KIHA 183 เที่ยว ก็เตรียมตัวทดลองนั่งได้ในช่วงเดือนตุลาคม 2565 นี้ เบื้องต้นจะเริ่มเปิดให้ใช้ในเส้นทางระยะสั้นก่อน ไม่เกิน 300 กิโลเมตร เช่น น้ำตกไทรโยก จ.กาญจนบุรี, หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี
การรถไฟฯ ได้มีการวางแผนบำรุงใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถวิ่งได้ในระยะยาว ด้วยการเปลี่ยนล้อ เพลา Bearing เปลี่ยนเครื่องยนต์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องทำลมอัดใหม่ ปรับปรุงระบบปรับอากาศ ไฟแสงสว่าง และระบบไฟฟ้าทั้งหมด โดยคาดว่าจะสามารถแล้วเสร็จครบทุกคันในระยะเวลา 2 ปี โดยหลังจากการปรับปรุงเป็นที่เรียบร้อย รถดีเซลรางปรับอากาศ จะมีขีดจำกัดในการใช้งานต่อไปได้อีก 15 – 20 ปี
การรถไฟฯ มุ่งหวังว่าการเปิดให้บริการขบวนรถไฟนี้ จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ช่วยให้เหล่าบรรดานักเดินทาง หรือนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเดินทางบนเส้นทางใหม่ ๆ ทั้งยังเป็นการช่วยสร้างรายได้ ให้กับชุมชนพื้นที่ใกล้เคียงทางรถไฟให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นข้อดีเลยก็ว่าได้
จากหลายคนที่เคยนั่งรถไฟแบบหลังขดหลังแข็ง ก็จะได้ลองนั่งรถไฟที่มีเบาะนั่งนั่งสบาย มีแอร์เย็น ๆ แล้ว ก็ถือว่าเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางได้อีกหนึ่งช่องทาง แต่ก็มาลุ้นกันอีกทีว่า ค่าตั๋วรถไฟราคากี่บาทกันน้า เดือนตุลาคม 2565 มารอลุ้นกันนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจาก www.matichon.co.th
ขอบคุณภาพจาก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
_____
ติดตาม Inzpy ได้ที่
Website:
https://inzpy.com/travel/
Youtube:
https://www.youtube.com/c/Inzpy
Facebook:
https://www.facebook.com/inzpyth
