กระแสที่เกิดขึ้นในจีนก็ไม่ค่อยต่างจากบ้านเราเท่าไร เพราะเจอการแพร่ระบาดของโควิดเหมือน ๆ กัน ตั้งแต่เทศกาลช้อปออนไลน์กลางปีเป็นต้นมา แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ก็เริ่มเห็นเทรนด์จากสินค้าออนไลน์หลายเรื่อง ตัวอย่าง JD.com ก็ออกมาบอกว่า ยอดขายของตกแต่งบ้านที่มีขายอยู่ในแพลตฟอร์มของ JD ที่มีมากกว่า 500 แบรนด์ในแพลตฟอร์มของตัวเองตอนนี้เพิ่มขึ้นกว่า 300% จากปีก่อนหน้าเลยทีเดียว ทำให้เห็นเทรนด์การแต่งบ้านของคนจีนชัดว่าเปลี่ยนไปอย่างไร
อีกเห็นผลที่ทำให้อีคอมเมิร์ซสะท้อนเทรนด์สินค้าตกแต่งบ้านเพราะสินค้าตกแต่งบ้านเป็นตลาดที่สัมพันธ์กับตลาดบ้าน เรียกว่าเป็นปลายน้ำของอสังหาริมทรัพย์ คนซื้อบ้านแล้วก็ต้องตกแต่งบ้าน และคนซื้อบ้านในจีนส่วนใหญ่ตอนนี้เฉลี่ยอายุอยู่ที่ประมาณ 30 ปี ทำให้ของตกแต่งบ้านยุคนี้เป็นเรื่องของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ ทำให้เกิดเทรนด์ใหม่ที่ต้องจับตา และแน่นอนการแต่งบ้านของคนจีนวัยรุ่นขึ้นเพราะผู้บริโภคกลุ่มหลักอายุน้อยลงนี่เอง
ตัวอย่างแบรนด์ของตกแต่งบ้านสไตล์จีน Shangpin Zhaipei ก็ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสินค้าที่บริษัทผลิตออกขาย ที่ต้องมีตัวเลือกที่หลากหลายและวัยรุ่นขึ้น แม้จะจะยังคงสไตล์จีนและวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้ เพราะจากที่บริษัทผลิตสินค้าออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง สังเกตพบว่า หากแบรนด์ใช้วัฒนธรรมในการออกแบบแต่มีฟังก์ชั่นในตัวสินค้าที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ จะได้รับการตอบรับจากตลาดในกลุ่มคนอายุ 22-31 ปี เป็นพิเศษ
ส่วนวิธีที่บริษัทตกแต่งบ้านแบบดั้งเดิมอีกหลายแห่งในตลาดนิยมใช้เปิดตัวสินค้าของตกแต่งบ้านให้คนรุ่นใหม่ พวกเขาจะใช้วิธีหาแบรนด์แอมบาสเดอร์พร้อมกับเปิดตัวสินค้า โดยสำหรับผู้บริโภครุ่นใหม่ นอกจากชอบสินค้าที่ไม่ค่อยเหมือนใคร ไม่ชอบไปสำรวจสินค้า แต่จะเลือกดูแบบที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ มีโมเดลหลากหลาย ทำให้การจัดห้องตัวอย่างแล้วถ่ายรูปให้ดูจะช่วยการขายได้มาก
แต่ที่สำคัญ ต้องมีบริการหลังการขายที่ดี เพราะคนรุ่นใหม่แม้จะยอมรับบริการผ่านออนไลน์สูง แต่ก็ต้องมีวิธีที่ทำให้สบายใจเมื่อตัดสินใจซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบริการ ระบบรับประกัน การตรวจสิบคุณภาพสินค้า รวม ๆ แล้วคือได้สินค้าที่ถูกใจแล้วยังต้องรู้สึกมั่นใจเมื่อตัดสินใจซื้อแล้ว
นี่ก็เป็นอีกเรื่องของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการคุณภาพทั้งที่ตัวสินค้าและบริการ ไม่มีหยวนเหมือนคนรุ่นเก่าในจีน ที่อาจจะหยวนๆ ยอมปล่อยผ่านถ้าสินค้าคุณภาพต่ำกว่าที่คาดหวัง
อ่านบทความอื่น ๆ