Autumn@Takaragawa Onsen
เมื่อพูดถึงประเทศญี่ปุ่น สิ่งแรก ๆ ที่ผู้คนจะนึกถึงก็คงจะเป็นการไปแช่อนเซ็ง ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดฮิตของทั้งชาวญี่ปุ่นเอง และของนักท่องเที่ยวอีกด้วย หากพูดถึงแหล่งแช่อนเซ็งที่บรรยากาศดี และไม่ไกลจากโตเกียวมาก เดินทางสะดวกสบาย ใคร ๆ ต่างก็นึกถึง Takaragawa Onsen ที่นี่เป็นที่พักแบบเรียวกัง ที่มีอนเซ็งที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองมินาคามิ จังหวัดกุนมะ น้ำพุร้อนของที่นี่เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ บ่อกลางแจ้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาลึก ซึ่งมีความเป็นธรรมชาติที่สวยงามเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่รักการแช่น้ำพุร้อน หรืออยากลองมาแช่เป็นครั้งแรก ที่นี่ถือเป็นจุดไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้
บ่อน้ำพุร้อนของที่นี่ในแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป ในฤดูฝนจะพบกับความเขียวสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้า และถ้าหากท่านเดินทางมาในฤดูหนาว ก็จะพบกับสีขาวโพลนของหิมะ ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านมาเยี่ยมชม Takaragawa Onsen ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งท่านจะได้พบกับความหลากหลายของสีสัน และอากาศที่หนาวเย็นกำลังดี รับรองว่าสวยงดงาม และฟินสุด ๆ ไม่แพ้ฤดูหนาว และฤดูฝนอย่างแน่นอน ไปเริ่มต้นการเดินทางกันได้เลย
Tips: สามารถจองโรงแรมได้ที่ JAPANiCAN
การเดินทางมาที่นี่ง่ายนิดเดียวด้วยการนั่งรถไฟความเร็วสูง Shinkansen ครั้งนี้เราเริ่มต้นที่ JR UENO STATOIN ไปลงที่ JR JOMO-KOKEN STATION ใช้เวลาประมาณ 59 นาที ค่าโดยสาร 5,810 เยน จากนั้นต่อรถ Shuttle bus ของเรียวกังเข้าไป ซึ่งรถบัสนี้ทางเรียวกังจะมีให้บริการฟรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที (ต้องติดต่อจองกับทางที่พักก่อนเดินทาง) ระหว่างทางรถบัสจะขับตัดผ่านหุบเขา ซึ่งขอบอกเลยว่าเป็น 45 นาทีที่สั้นมาก เพราะวิวสองข้างทางนั้นสวยงามดูเพลินมาก ๆ
Tips: หากใครมี Tokyo Wide Pass, JR East Pass หรือ JR Rail Pass สามารถนั่ง Joetsu Shikansen ได้ฟรีนะคะ
เมื่อรถบัสมาถึงที่เรียวกังแล้วจะมีพนักงานของที่พักมาคอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวก สิ่งแรกที่เราจะต้องทำ คือเปลี่ยนรองเท้าเป็นของโรงแรมค่ะ จากนั้นก็กรอกข้อมูลเล็กน้อยลงในเอกสาร เมื่อเสร็จแล้วพนักงานจะพาเราไปเลือกชุดยูกาตะสำหรับใส่ตลอดเวลาที่อยู่ที่เรียวกังแห่งนี้ เมื่อเลือกได้แล้วพนักงานจะพาเราไปส่งที่ห้อง และแจ้งเวลาทานอาหารเย็น
ห้องพักที่ Takaragawa Onsen จะมีทั้งหมด 3 ตึก คือ First Annex, Main Building และ East Building ซึ่งวันนี้เราเลือกจองที่ East Building ค่ะ เป็นตึกที่มีห้องพักราคาสูงที่สุดใน 3 ตึก เนื่องจากเป็นห้องพักแบบที่มีห้องน้ำในตัว เมื่อถึงห้องแล้วก็จัดแจงเก็บสัมภาระ และเปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะ เพื่อเตรียมตัวลงไปแช่บ่อน้ำพุร้อนกัน
การมาแช่อนเซ็งของที่นี่หากต้องการมาแบบ One day Trip ก็สามารถทำได้นะคะ จะมีค่าบริการ 1,500 เยน/ท่าน ค่าเช่าชุดกระโจมอก 600 เยน (ใส่ลงบ่อได้) ค่าเช่าผ้าเช็ดตัว 100 เยน
อนเซ็งกลางแจ้งของที่นี่จะมีทั้งหมด 4 บ่อ ซึ่งเป็นบ่อรวมทั้งหมด 3 บ่อ และบ่อเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น 1 บ่อ นอกจากนี้ก็ยังมีบ่อที่อยู่ภายในอาคาร East Building อีก 2 บ่อ เป็นบ่อแยกชาย-หญิง เปิดบริการ 24 ชั่วโมงอีกด้วยธรรมเนียมการแช่อนเซ็งของญี่ปุ่นนั้น จะต้องเปลื้องผ้าออกทั้งหมด และล้างตัวก่อนลงแช่ แต่ที่นี่อนุโลมให้ผู้หญิงสามารถนุ่งกระโจมอกที่เรียวกังเตรียมไว้ให้ลงแช่ได้
Tips:โดยปกติแล้วอนเซ็งส่วนมากในญี่ปุ่นจะไม่อนุญาตให้คนที่มีรอยสักลงแช่ หากใครมีควรเช็กกับทางที่พักอีกครั้ง ส่วนที่นี่อนุญาตให้คนมีรอยสักลงได้ค่ะ
ไปพบกับรูปฟิน ๆ ของ Takaragawa Onsen กันเลย
การแช่บ่อน้ำพุร้อนในอากาศหนาว ๆ นั่งแช่ไปชมวิวโดยรอบไป มันมีความสุขมาก ๆ อย่างบอกไม่ถูก เรียกว่าฟินสุด ๆต้องมาลองสักครั้ง รับรองว่าติดใจกลับไปกันทุกรายค่ะ เมื่อขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนมาแล้ว ความอบอุ่นจะเข้าสู่ร่างกายเราค่ะ ทำให้ไม่รู้สึกหนาวเลย แต่จะสบายตัวมาก ๆ
เมื่อแช่อนเซ็งเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมาที่ห้องพักเพื่อเตรียมตัวลงไปทานมื้อค่ำกันค่ะ อาหารค่ำทางที่พักจะจัดให้เป็นชุดหม้อไฟให้คนละ 1 ชุด และที่เหลือจะเป็นแบบบุฟเฟต์ค่ะ สามารถเลือกทานได้ตามใจชอบ อาหารก็มีให้เลือกทานพอสมควร รสชาติดีเลยค่ะ
ระหว่างที่เราลงไปทานอาหาร พนักงานจะขึ้นมาที่ห้องพักเพื่อทำการปูฟูกที่นอนให้กับเราค่ะ เมื่อกลับขึ้นมาจะเห็นห้องนอนเป็นตามรูปด้านล่างนี้นะคะ สำหรับใครที่ไม่เคยนอนฟูกแบบนี้ บอกเลยว่าอุ่นสบายมากกกกก หลับแล้วไม่อยากจะตื่น ต้องไปลองสักครั้งนะคะ นอนหลับแบบฟิน ๆ กันยันเช้าเลย
ก่อนกลับเพื่อความคุ้มค่า เราก็รีบตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปแช่อนเซ็งกันอีกครั้งค่ะ และขึ้นมาเก็บสัมภาระเตรียมตัวขึ้น Shuttle bus กลับ ความน่ารักของชาวญี่ปุ่นก็คือ เมื่อรถเตรียมตัวออกจากเรียวกัง จะมีพนักงานมาตั้งแถวโบกมือลานักเที่ยวจนกว่ารถบัสจะลับสายตา เป็นความประทับใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการมาแช่อนเซ็งในครั้งนี้ รถบัสมุ่งหน้าสู่สถานี JOMO-KOGEN เพื่อขึ้น Shinkansen เดินทางกลับสู่โตเกียวต่อไป….
Puerto Princesa – Palawan ที่เที่ยว ฟิลิปปินส์ แบบ Local Style คลิกเลย