LVMH Moët Hennessy • Louis Vuitton หรือที่นิยมเรียกกันว่า LVHM คือบริษัทมหาชนข้ามชาติของสหภาพยุโรป มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งประวัติความเป็นมาของกลุ่มบริษัทเริ่มต้นจากการก่อตั้งแบรนด์หลุยส์ วิตตอง ในปี ค.ศ. 1854 จากนั้นทางโมเอต์แอนด์ชันด็อน ผู้ผลิตแชมเปญ และเฮนเนสซี่ ผู้ผลิตเหล้าคอนญัก ได้รวมกิจการกันเป็นบริษัท โมเอต์เฮนเนสซี่ ก่อนที่จะควบรวมหลุยส์ วิตตอง ก่อตั้งเป็นเครือ LVMH ในปี ค.ศ. 1987 ปัจจุบันมีบริษัทย่อยประมาณ 60 บริษัท ผลิตแบรนด์สินค้าในเครือมากกว่า 75 แบรนด์ เช่น Louis Vuitton, Christian Dior, Marc Jacobs, Celine, Bvlgari, Givenchy, Fendi และอื่นๆอีกมากมาย ซี่ง LVMH ไม่ได้มีแค่ธุรกิจแฟชั่นและเครื่องหนัง แต่ยังมีธุรกิจนาฬิกาและเครื่องประดับ ธุรกิจเครื่องสำอางที่เรารู้จักกันดี เช่น Fenty Beauty, Guerlain, Benefit ธุรกิจไวน์และแอลกอฮอล์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงกิจการร้านค้าปลีกอย่าง Sephora อีกด้วย
มาถึงตรงนี้สาวๆคงอยากรู้แล้วว่าใครกันนะที่โชคดีได้คลุกคลีกับแบรนด์ดังระดับโลก รวมทั้งรับทรัพย์มหาศาลจากยอดขายจนส่งผลให้ติด Top 3 มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก (แข่งกับ Jeff Bezos, Elon Musk, Bill Gates, Mark Zuckerberg และ Warren Buffett) เขาผู้นั้นก็คือ Bernard Arnault นั่นเอง ซึ่งก่อนที่จะเข้ามาบริหาร LVMH ในปี ค.ศ. 1971 Bernard ได้ไปรับช่วงต่อที่บริษัทก่อสร้างของพ่อ (คุณแบร์นาร์เรียนจบปริญญาสาขาวิศวกรรม) อีกเกือบ 10 ปีถัดมา เขาได้เก็บเกียวประสบการณ์จนขึ้นเป็นประธานบริษัทต่อจากพ่อ แต่เนื่องจากผลกระทบทางการเมือง ทำให้ต้องย้ายไปอยู่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นั่นทำให้เขาเริ่มเห็นเส้นทางธุรกิจแฟชั่น เมื่อกลับมาฝรั่งเศส Bernard ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท Agache-Willot-Boussac ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Christian Dior และห้างสรรพสินค้า Bon Marche ซึ่งในขณะนั้นกำลังมีสถานะทางการเงินที่ย่ำแย่ เขาได้ใช้ความรู้ความสามารถทางการบริหารธุรกิจและการตลาด ทำให้ Dior ประสบความสำเร็จ สร้างกำไรอย่างงดงามจนกลายเป็นตัวชูโรงของแอลวีเอ็มเอช ซึ่งปัจจุบัน Dior มีหุ้นร้อยละ 40.9% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด Bernard จึงขึ้นแท่นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ กลายเป็นประธานและซีอีโอของทั้งสองบริษัท การขยายอาณาจักรแอลวีเอ็มเอชเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปี ค.ศ. 1999 ได้เข้าซื้อกิจการ Make Up For Ever แบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งโดยเมคอัพอาร์ติส Dany Sanz เพื่อเสริมการเสนอขายเครื่องสำอางระดับไฮเอนด์ และพัฒนาการเสนอขายให้กับฐานลูกค้าแฟชั่น ปี ค.ศ. 2011 Bvlgari แบรนด์หรูระดับโลกจากอิตาลี ผู้ผลิตเครื่องประดับและนาฬิกา ตัดสินใจจะร่วมมือกับกลุ่มแอลวีเอ็มเอชเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางประวัติศาสตร์ ค่านิยมงานฝีมือ และเอกลักษณ์ของการพัฒนาระยะยาว งานนี้ LVMH เข้าถือหุ้นถึงร้อยละ 50.4% ของบริษัท ปี ค.ศ. 2014 ร่วมทุนกับ Marco De Vincenzo แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอิตาลี โดยถือหุ้นร้อยละ 45% ของบริษัท ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2018 LVMH ประกาศยอดขาย 42.6 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน พฤษภาคม ปี ค.ศ. 2019 เปิดตัวแฟชั่นเฮาส์ Fenty ซึ่งสร้างสรรค์โดยนักร้องชื่อดัง Rihanna ในกรุงปารีส เป็นแฟชั่นเฮาส์ใหม่แห่งแรกของ LVMH ในรอบ 32 ปี และเธอเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่เป็นหัวหน้าแบรนด์ภายใต้ LVMH ถัดมาอีกสองเดือน LVMH ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่เพื่อพัฒนา Stella McCartney House ต่อไป ความรวย ความปังยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ล่าสุดในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2021 Bernard ได้ทุ่มเงิน 15.8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซื้อกิจการบริษัทจิวเวลรี่สัญชาติอเมริกัน Tiffany & Co. เข้ามาอยู่ในกลุ่มแอลวีเอ็มเอชได้สำเร็จหลังจากเจรจาต้าอ่วยกันมาแรมปี
มาพูดถึงกลุ่มลูกค้าที่อุดหนุนแบรนด์หรูในเครือกันบ้าง ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน แถบเอเชียเรานี่แหละคือฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุด ตามมาด้วยประเทศสหรัฐอเมริกา และยุโรป ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเราถึงเห็นศิลปิน K-Pop ศิลปินชาวจีน รวมถึงดารา เซเลบคนไทยเป็น Brand Ambassador, Muse, หรือ Friends ของแบรนด์ต่างๆ เริ่มต้นคนแรกเลย กับน้องลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ Lisa Blackpink สาวไทยที่ดังไกลในวงการ K-Pop พอเข้ามาเป็น Global Brand Ambassador คนแรกของ Celine ก็ทำให้แฟนคลับหลายๆคนรู้จักแบรนด์นี้กันมากขี้น (แบรนด์นี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่ม) สารภาพว่าดิฉันเองก็ควักเงินซื้อกระเป๋าตามน้องลิซ่าไปหลายใบ จากที่เมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจแบรนด์นี้เท่าไหร่นัก
ไหนๆพูดถึงน้องลิซ่าแล้ว ไอดอล K-Pop อีกหนึ่งคนที่มาจากวงเดียวกัน นั่นก็คือ Jisoo Blackpink ก็ถูกเชิญให้เป็น Global Brand Ambassador ให้กับ Christian Dior แบรนด์คู่บุญที่ Bernard Arnault บริหารจัดการจนกลายเป็นแบรนด์หรูที่สาวๆหลายคนอยากได้มาครอบครอง
Louis Vuitton ก็มาพร้อมกับวงบอยแบนด์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่าง BTS ย้ำว่า “มาทั้งวง” ไม่อยากจะคิดเลยว่าทางแบรนด์ต้องทุ่มทุนหนักขนาดไหน
ส่วนแบรนด์หรูจากประเทศอิตาลีอย่าง Fendi ก็ไม่น้อยหน้าคว้าตัว Jackson Wang แรปเปอร์หนุ่มชาวฮ่องกง อดีตสมาชิกวง GOT7 ผู้มากความสามารถ ที่ได้รับความนิยมทั้งในเกาหลี จีน และทั่วทั้งเอเชียมาเป็น Brand Ambassador ให้
ปิดท้ายด้วยสมาชิกอีกหนึ่งคนจากวง K-Pop ที่ตอนนี้ดังระดับโลกแล้ว นั่นก็คือ Rose Blackpink เธอมากับแบรนด์ Tiffany & Co. จิลเวลรี่ยอดฮิตสัญชาติอเมริกัน ที่ตอนนี้เข้ามาอยู่ในเครือแอลวีเอ็มเอชเป็นที่เรียบร้อย
ถึงแม้ว่า Bernard Arnault จะเป็นคนที่ร่ำรวยอยู่แล้ว แต่ทางเราคิดว่า แนวคิดของเขาต่างหาก ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ ร่ำรวยขึ้นมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการกวาดซื้อแบรนด์ต่างๆเข้ามาอยู่ในเครือ LVMH เพื่อครองตลาดแบรนด์เนมหรู ไม่ปิดกั้นตัวเองที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่ควบคุมความคิดสร้างสรรค์และรับฟังความคิดใหม่ๆของคนในทีม ทำคุณภาพของผลงานให้มากกว่าผลกำไร สร้างแบรนด์ที่อยู่เหนือกาลเวลา รวมถึงจับกลุ่มเป้าหมายได้ถูกจุด เป็นต้น ยังไงก็ลองนำแนวคิดเหล่านี้ไปเป็นไอเดียในการวางแผนทำธุรกิจของตัวเองกันได้นะคะ
บทความที่คุณอาจสนใจ