เวลาเจอพวกคำว่า ไวเทนนิง, ไฮยารูโรนิก, ทีทรีออยล์ หรือเรตินอล เกิดอาการสงสัยกันมั่งไหมคะว่าจริง ๆ แล้วมันจัดอยู่ในหมวดอะไรของสกินแคร์ หรือตอนนี้ใครกำลังมองหา ส่วนผสมในสกินแคร์ ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าตอนนี้ เก็บความสงสัยนั้นไว้เลยเพราะวันนี้ Inzpy จะมาบอกเล่าเกร็ดความรู้เรื่องส่วนผสมในสกินแคร์ เพื่อให้เวลาที่ไปยืนเลือกผลิตภัณฑ์จะได้ไม่ยืนงงกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย
กลุ่มไวเทนนิง
เริ่มกันที่ตัวแรกของ ไวเทนนิงเลยอย่าง Niacinamide หรือเราจะรู้จักกันอย่างดีในอีกชื่อว่า วิตามินบี 3 ซึ่งเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวที่สามารถช่วยได้ตั้งแต่การลดริ้วรอยและรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว จนไปถึงช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ที่ช่วยให้ผิวกระชับและชุ่มชื้น แถมยังไม่ทำให้เกิดความมันบนใบหน้าเพิ่มอีกด้วย ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบไหนก็ใช้ได้ค่ะ
Arbutin หรือ อัลฟาอาบูติน เป็นสารสกัดจากต้นแบเบอร์รี บลูเบอร์รี แครนเบอร์รี ข้าวสาลีและแพร จัดเป็นหนึ่งในอนุพันธ์ของสารไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นสารที่ใช้เพื่อรักษาสิว ฝ้า มาเป็นเวลานาน แต่ตัวอาบูตินจะมีความปลอดภัยมากกว่า แล้วอาบูตินช่วยทำให้หน้ากระจ่างใสได้อย่างไร ก็โดยเมื่อเรารับสารอาบูตินลงผิวหน้าแล้วเจ้าตัวอาบูตินจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้สีผิวเราสม่ำเสมอขึ้นนั่นเองค่ะ
วิตามินซี สามารถพบได้มากในผักและผลไม้ ซึ่งวิตามินซีเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ต้องได้รับจากการกิน คุณสมบัติหลักของวิตามินซีจะเด่นในเรื่องของการทำให้ผิวขาวใสเปล่งปลั่ง เป็นตัวกระตุ้นและสร้างสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเต่งตึง เห็นอย่างนี้แล้วต้องรีบไปตลาดซื้อผลไม้มากินเพื่อเพิ่มวิตามินซีกันเยอะ ๆ แล้ว
กลุ่มเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
กรดไฮยารูโรนิก เป็นสารจากธรรมชาติที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ในชั้นผิวหนังแท้ แต่อย่าชะล่าใจเพราะยิ่งอายุเพิ่มขึ้นการผลิตก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ ค่ะ ใครที่ผิวหน้าแห้งมาก ๆ ต้องคอยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอย่าง ไฮยารูโรนิกนี้ค่ะ
กรดอะมิโน เป็นอีกสารสกัดหนึ่งที่คนผิวแห้งมากห้ามขาดเลยเด็ดขาดเพราะกรดอะมิโนจะช่วยคงความอ่อนเยาว์ ทั้งเพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวทำให้ผิวไม่เหี่ยวย่นก่อนวัย
กลีเซอรอล ได้รับมาจากพืชและสัตว์ มีคุณสมบัติในการดูดความชื้นและสามารถกักเก็บความชื้นที่อยู่รอบ ๆ ตัวลงสู่ผิวหนังเหมือนกับไฮยารูโรนิกที่ช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นทำให้ผิวที่รู้สึกแห้งนุ่มขึ้น แถมยังช่วยให้ส่วนผสมหลาย ๆ ตัวซึมลงสู่ผิวได้ดีขึ้นทั้งนี้เพื่อน ๆ สามารถหาสารสกัดกลีเซอรอลได้ในสบู่ล้างหน้า เซรั่ม หรือมอยเจอไรเซอร์
วิตามินบี 5 ช่วยให้ผิวนุ่มเนียนแลดูสุขภาพดี และยังมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบซึ่งจะช่วยกระตุ้นกระบวนการรักษาผิว ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างล้ำลึกด้วยการดูดซับความชุ่มชื้นจากอากาศ ใครที่อยากให้ผิวดูสุขภาพดี นุ่มชุ่มชื้นต้องเสริมสร้างด้วยวิตามินบี 5 ได้เลยค่ะ
กลุ่มรักษาสิว
มาถึงสารสกัดที่ช่วยเรื่องสิวกันแล้วในกลุ่มของการรักษาสิวนั้นตัวดัง ๆ อย่าง กรดซาลิไซลิก ที่เป็นกรดเบต้าไฮดรอกซี (BHA) มีคุณสมบัติในการช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่จะนำมาขัดผิว และกำจัดสิวหัวดำและสิวหัวขาว นั่นหมายความว่า กรดซาลิไซลิกสามารถแทรกซึมผ่านชั้นไขมันระหว่างเซลล์ผิวหนังเลยเข้าไปสลายน้ำมันอุดตันในรูขุมขนได้
โอลิโกเปปไทด์ เป็นสารที่สามารถแทรกซึมลึกเข้าไปในผิวหนังแท้ได้และยังเร่งการเผาผลาญกระตุ้นการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ผิวมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียในผิวค่ะ
กรดเรทิโนอิก ช่วยให้ผิวหนังผลัดเซลล์ผิวใหม่ ด้วยความที่เป็นกรดวิตามินที่มีฤทธิ์ต่อระบบการทำงานของร่างกาย จึงต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์เท่านั้น โดยตัวยาจะออกฤทธิ์กระตุ้นการแบ่งเซลล์และเร่งการผลัดเซลล์ของผิวในชั้นเยื่อบุผิว และยังป้องกันการเกิดสิวอุดตัน สาเหตุของการเกิดสิวทั่วไปอีกด้วย
ทีทรี กำลังเป็นที่นิยมของผลิตภัณฑ์รักษาสิวในปัจจุบันเพราะทีทรีมีส่วนช่วยฆ่าเชื้อและขจัดสิว ฝ้า กระ รูขุมขน แถมยังควบคุมความมันได้ดี เป็นสารสกัดที่เยี่ยมยอดครบวงจร ใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยค่ะ
กลุ่มลดเลือนริ้วรอย
เรตินอล เป็นฮีโร่ตัวเก่งที่คอยช่วยต่อต้านริ้วรอยที่ได้รับความเสียหายจากดวงอาทิตย์ อย่างจุดดำและรอยเหี่ยวย่นได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอล 0.1% (แต่ใช้เป็นประจำในระยะยาว) ทำให้เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็วภายในหนึ่งเดือน ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนทุกครั้งที่จะเริ่มใช้เรตินอลกันนะคะ
เปปไทด์ มีหน้าที่ช่วยให้เซลล์ในร่างกายผลิตคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของชั้นผิว ใครที่กังวลเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวหนัง Inzpy แนะนำการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวและลดการเสื่อมสลายของจำนวนคอลลาเจน
ยีสต์ ช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมดีเอ็นเอของผิวหนังให้ได้รับการปกป้องผิวจากความเสียหาย แถมยังซ่อมแซมผิวที่โดนทำร้ายจากแสงแดดได้อีกด้วย
วิตามินอี เป็นสารอาหารที่จำเป็นช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระและการซ่อมแซมผิว เรามาดูกันค่ะว่าวิตามินอีมีคุณประโยชน์ต่อผิวในเรื่องอะไรบ้าง
1.ช่วยบำรุงผิว วิตามินอีช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวที่แห้งและผิวที่เสียหายโดยช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น อีกอย่างวิตามินอียังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบตามธรรมชาติที่สามารถบรรเทาและทำให้ผิวระคายเคืองลดลงด้วยค่ะ
2.ทำให้รอยแผลเป็นจางลงและรักษารอยผิวแตกลาย วิตามินอีช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย การสร้างเซลล์ผิวใหม่จะทำให้จุดด่างดำหรือรอยแผลเป็นจากสิวบนใบหน้าจางลงค่ะ
3.ต่อต้านริ้วรอย วิตามินอีเมื่อแทรกซึมลงสู่ผิวแล้วจะเพิ่มการไหลเวียนโลหิตทั้งนี้ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น เช่นพวกริ้วรอย ร่องลึกและรอยคล้ำใต้ตา อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในเรื่องของการปกป้องรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้าอีกด้วยค่ะ
ได้ความรู้แบบจัดหนักจัดเต็มกันไปเลยกับบทความ รวมเกร็ดความรู้เรื่อง ส่วนผสมในสกินแคร์ บำรุงให้เหมาะกับผิวหน้า คราวนี้ไม่มีใครยืนงงในดงสกินแคร์กันแน่นอน Inzpy ไม่พลาดที่จะมาอัปเดตเรื่องราวดี ๆ ให้กับเพื่อน ๆ แน่นอนค่ะ ไว้เจอกันใหม่ค่ะ Bye
Cr.Photo; Freepik