More

    ครั้งแรกบนหน้าปัดดีไซน์ซีรีส์ 2100 “CASIO G-SHOCK” เผยโฉม MR-G B2100 ผสานงานศิลป์ “คิกุมิ”

    G-SHOCK MR-G B2100 นาฬิการุ่นใหมล่าสุดของตระกูล MR-G ที่มาพร้อมกรอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมและดีไซน์ที่มีสไตล์ โดดเด่นด้วยหน้าปัดลายตาข่ายสามมิติ ซึ่งบริเวณหน้าปัดของรุ่นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากความงามในการใช้งานของศิลปะการต่อไม้แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เรียกว่า คิกุมิ (Kigumi) เป็นเทคนิคการก่อสร้างและงานไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งใช้สำหรับงานต่อไม้โดยไม่ต้องใช้ตะปูหรือโลหะยึด

    G-SHOCK MR-G B2100

    ขอบตัวเรือนด้านบนผลิตจากโคบาเรียน (COBARION) เป็นโลหะผสมที่มีความแข็งประมาณ 4 เท่าของไทเทเนียมบริสุทธิ์ มีความแวววาวเทียบได้กับแพลตตินัม ข้อต่อสายผลิตจาก DAT55G ซึ่งเป็นโลหะผสมไทเทเนียมที่มีความแข็งประมาณ 3 เท่าของไทเทเนียมบริสุทธิ์ มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนรูปทรงได้หลากหลาย ด้วยการใช้โลหะผสมที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ มีความแวววาวเมื่อเปรียบเทียบกับตัวแพลตตินัม ผสานกับเทคโนโลยีการเคลือบ DLC หรือ diamond-like carbon (DLC) ที่ทำให้มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนที่ดีมากขึ้น

    G-SHOCK MR-G B2100

    ชิ้นส่วนภายนอกได้รับการขัดเงาทีละชิ้นโดยช่างฝีมือชั้นยอด จากนั้นจะได้รับการประกอบเข้าด้วยกันอย่างพิถีพิถันเฉกเช่นเดียวกับงานไม้ คิกุมิ ซึ่งพัฒนาขึ้นในญี่ปุ่น CASIO จึงประสบความสำเร็จในการออกแบบตัวเรือนภายนอกที่ได้รับการรับประกันทั้งความแข็งแกร่งและความสวยงาม ขณะที่ตัวเรือน ฝาหลัง และปุ่มกดต่างๆ ได้รับการผลิตจากโลหะผสมไทเทเนียม Ti64 แบบพิเศษ

    ตัวโครงสร้างของตัวเรือนประกอบจากชิ้นส่วนมากถึง 27 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นจะได้รับการขัดแต่งอย่างสวยงามก่อนที่จะประกอบลงบนตัวเรือน แสดงให้เห็นถึงความปราณีตของงานฝีมือเชิงศิลปะ

    G-SHOCK MR-G B2100

    พื้นผิวหน้าปัดได้รับการออกแบบให้เป็นลอนคลื่นพร้อมช่องเปิดเล็กๆ ที่ซับซ้อน เพื่อสร้างลวดลายเรขาคณิตที่สื่อถึงโลกทัศน์ของงานโครงตาข่ายคุมิโกะ (Kumiko) ได้อย่างสวยงาม ลวดลายนี้ไม่เพียงแต่เป็นดีไซน์ที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ช่องเล็กๆ ที่ประณีตเหล่านี้ยังช่วยให้แสงผ่านเข้าไปเพียงพอเพื่อผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ด้วยฟังก์ชัน Tough Solar

    นาฬิการุ่นใหม่นี้เป็นเรือนแรกของซีรีส์ 2100 ในตระกูล MR-G ซึ่งซีรีส์ 2100 ได้เปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อปี 2562 ด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างดิจิทัลและแอนะล็อก ซึ่งนำเสนอสไตล์โมเดิร์นแฝงกลิ่นอายของ G-SHOCK รุ่นแรกสุดอย่าง DW-5000C อีกทั้งยังมาพร้อมกรอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมอันโดดเด่นและดีไซน์เพรียวบาง ซีรีส์ 2100 จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก

    นาฬิการุ่นนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่ทันสมัยและครบครัน เช่น ระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อการปรับตั้งเวลาอัตโนมัติ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ รวมถึงการกันน้ำลึกถึง 200 เมตร และการทนต่อแรงกระแทกที่เป็นเอกลักษณ์ของ G-SHOCK ทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นที่น่าประทับใจและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความทนทานและสไตล์ที่โดดเด่น จึงนับเป็นการผสมผสานระหว่างความงามอันประณีตของโลหะกับความแข็งแกร่งทนทานเป็นเอกลักษณ์ของ G-SHOCK จนกลายเป็นดีไซน์ที่คู่ควรกับชื่อของ MR-G อย่างแท้จริง

    นอกจากนี้ G-SHOCK ยังมอบความพิเศษขั้นสุดในการเปิดตัว MR-G B2100 เพื่อให้ได้มีโอกาสชมและสัมผัสเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ของ G-SHOCK ตระกูล MR-G ด้วยการนำนาฬิการุ่น MR-G ทั้งหมด ที่ปัจจุบันถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่ประเทศญี่ปุ่น มาไว้ในงานนี้ ซึ่งจะถือเป็นการจัดแสดงนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกอีกด้วย

    Photo: Courtesy of Brands

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    “RASKH” นาฬิกาพร้อมที่เปิดขวดในตัว เรือนแรกของโลก
    ตื่นตานาฬิกามูลค่า 60 ล้านบาท

    Related Post