สัมผัสการดูแลผิวแบบไทย ผ่อนคลายเหมือนได้ไปสปา Face Steaming – การมีผิวพรรณใบหน้าที่ผ่องใสไม่ใช่เรื่องยากที่คุณเองก็สามารถทำได้ การบำรุงดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์สกินแคร์ของคุณอยู่เป็นประจำก็เป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ และสุขภาพดีได้อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามการดูแลผิวที่เป็นเคล็ดลับความงามของไทยเองก็มีวิธีการที่สามารถทำให้ใบหน้าและผิวกลับมากระจ่างใสมีชีวิตชีวาไม่แพ้สกินแคร์แพง ๆ เลย
เคล็ดลับการดูแลผิวแบบไทยที่เราจะบอกต่อไปนี้ เป็นหนึ่งในวิธีที่สปาหลาย ๆ แห่งนำไปประยุกต์ใช้ในการดูแลรักษาผิวที่คุณจะรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งคุณเองก็สามารถนำวิธีนี้มาปรับใช้กับอุปกรณ์ และวัตถุดิบที่สามารถซื้อได้ทั่วไป และสำหรับคนธรรมดาที่หาเช้ากินค่ำก็สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสปาแพง ๆ เพื่อทำการดูแลผิว
Face Steam หรือการอบไอน้ำให้กับผิวหน้าเป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยบำรุง ฟื้นฟูผิว ของทุกคนให้กลับมามีชีวิตชีวาได้ง่าย ๆ พร้อมคืนความชุ่มชื้น ปรับผิวให้เนียนนุ่มขึ้นได้ง่าย ๆ ซึ่งเป็นเคล็ดลับความงามของสาวไทยดั้งเดิม ที่มักจะเอาหน้าไปอังกับเตาที่ใช้ในการหุงข้าว และมีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นการนำสมุนไพรต่าง ๆ มาต้ม แล้วนำใบหน้าไปอังกับไอน้ำที่ระเหยขึ้นมา
ประโยชน์ของการอบไอน้ำผิวหน้า Face Steaming
1.ทำความสะอาดสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก การอบไอน้ำใบหน้าจะช่วยเปิดรูขุมขนเพื่อปลดปล่อยเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่อุดตันรูขุมขน ทั้งหมดนี้จะช่วยปกป้องผิวหน้าไม่ให้เกิดสิวอีกด้วย
2.ลดความมันส่วนเกิน ไอน้ำธรรมชาติจะช่วยทำให้ผิวหน้าที่แห้งกร้านจากภายในกลับมาชุ่มชื้นขึ้น ซึ่งจะทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันเพื่อมาหล่อเลี้ยงผิวหน้าน้อยลง และการอบไอน้ำบนใบหน้าจะช่วยขับน้ำมันที่ติดอยู่ในรูขุมขนออกมาด้วย
3.เพิ่มการไหลเวียนเลือด การผสมผสานของไอน้ำร้อน และเหงื่อที่เพิ่มขึ้นในขณะที่อบไอน้ำอยู่จะขยายหลอดเลือดและเพิ่มการไหลเวียน เมื่อผิวหน้ามีการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นจะช่วยบำรุงผิวของคุณ และเติมออกซิเจนให้กับผิวได้มากขึ้น ส่งผลให้ผิวเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
4.ช่วยในการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน การไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการอบไอน้ำบนใบหน้าจะช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวกระชับ ดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนมากหลังจากการอบไอน้ำใบหน้าตอนเสร็จใหม่ ๆ
5.ช่วยเพิ่มการดูดซึมพร้อมรับการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป การอบไอน้ำบนใบหน้าช่วยเพิ่มการซึมผ่านของผิวทำให้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น หลังจากอบไอน้ำเรียบร้อยคุณควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ เข้าไปทันที
6.ช่วยทำให้ผ่อนคลาย และคลายเครียดได้ แค่รู้สึกถึงไออุ่น ๆ บนใบหน้าก็ทำให้เราผ่อนคลายได้แล้ว การเติมสมุนไพร และน้ำมันหอมระเหยลงบนผิวหน้าจะช่วยปลอบประโลมร่างกาย และจิตใจ คุณสามารถจดจ่อกับการหายใจได้ดี การหายใจลึก ๆ ช้า ๆ จะช่วยคลายความเครียดได้อีกด้วย
วิธีการการอบไอน้ำผิวหน้า
สำหรับวิธีการอบไอน้ำผิวหน้า Face Steaming นั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องไปถึงสปา เพียงแค่มีหม้อต้มน้ำ และสมุนไพรกับน้ำมันหอมระเหย ก็สามารถทำการอบไอน้ำผิวหน้าได้แล้ว โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.นำน้ำสะอาดที่เราเตรียมไว้ไปต้มให้น้ำเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศา จากนั้นให้ใส่สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อผิวหน้า และความงามลงไป จากนั้นให้ปิดไฟทันที
2.ให้คุณนำน้ำที่ต้มพร้อมกับสมุนไพร นำมาเทใส่ภาชนะที่มีปากกว้างพอที่จะให้ใบหน้าของเราได้รับไอน้ำจากภาชนะได้ทั้งหน้า เพื่อให้ผิวหน้าได้รับไอน้ำได้ทั่วถึงที่สุด
3.จากนั้นให้คุณนำใบหน้าของคุณไปอังเพื่อรับไอน้ำที่มีการเติมสมุนไพรลงไปในขณะที่น้ำยังร้อนและมีไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมาอยู่ อังใบหน้าของคุณไว้ประมาน 10-15 นาที คุณสามารถพักแล้วนำน้ำไปต้มเพื่อให้เกิดไอน้ำขึ้นใหม่อีกได้ แล้วนำมาอังหน้าต่อ ซึ่งคุณจะสามารถอบไอน้ำผิวหน้าได้ 2-3 รอบต่อครั้ง
คุณสามารถสัมผัสการดูแลผิวแบบไทย ผ่อนคลายเหมือนได้ไปสปาง่าย ๆ ได้ที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์มากมายเลย ส่วนสมุนไพรที่ใช้ก็เลือกจากความชอบได้เลย ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบที่มีสาร Hydrosols ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ให้เนียนนุ่ม กระจ่างใส และกระชับผิว หรือจะเป็น ตะไคร้ ,ขมิ้น ,ไพล ,มะกรูด ,การบูร และอื่น ๆ ที่คุณสามารถหาได้ ใช้ลงไปต้มได้หมด สำหรับใครที่มีน้ำมันหอมระเหยอื่น ๆ ก็สามารถหยดลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นที่หอม เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายขึ้นได้มากยิ่งขึ้น