เรียกว่า “หยุดไม่อยู่จริง ๆ เกมนี้!” สำหรับเกมฟุตบอลยอดนิยม อันดับ 1 ณ ปัจจุบัน “FIFA 22” ที่หลาย ๆ คนรอยคอ และ รอคอย ทั้งคนที่สมัคร EA PRO ของ Origin ซึ่งมีโอกาสได้เล่นก่อนใครเพื่อน
หรือจะแพลทฟอร์ม PC และ Console ที่ Pre-Order หรือ ซื้อแบบ Pack พิเศษไว้ เพื่อสิ่งที่ดีกว่า เมื่อลงสนามในรูปแบบ FUT champ ในวันที่เกมเปิดอย่างเป็นทางการ ก็คงจะถูกอกถูกใจ และ “ฟิน” กันสุด ๆ
อย่างที่เรารู้ ๆ กันครับ บนโลกใบนี้ มีเกมฟุตบอลดัง ๆ อยู่ไม่กี่เกม Pro Evolution Soccer (PES หรือ Winning Eleven ในอดีตกาลนานมาก ๆ) เกมฟุตบอลที่ครองตลาดมาอย่างยาวนานตั้งสมัย Play station 1 (PS1) และเปรี้ยงแบบพลุแตกสุด ๆ ตอน PS2 ก่อนที่จะค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา
เกมต่อมา คือ FIFA ที่เบียดและต่อสู้กับ PES มาอย่างยาวนาน แม้ว่าจะสู้แทบไม่ได้ในอดีต โดยเฉพาะฝั่งของ เอเชีย แต่ก็พัฒนาจนกลายเป็นเบอร์ต้นในปัจจุบัน
และสุดท้าย Football Manager (FM) เกมบริหารทีมฟุตบอลชื่อดัง ค้างฟ้ามายาวนานกว่า 20 ปี (จริง ๆ นานกว่านั้น) แม้ว่าจะเป็นเกมคนล่ะแนวกับ 2 เกมข้างต้น แต่ก็เป็น ชื่อแรก ๆ ที่เกมเมอร์สายฟุตบอลนึกถึงเช่นกัน
แต่วันนี้เนื่องในโอกาสที่ FIFA ได้เปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการแล้วในทุกแพลทฟอร์ม รวมถึงการยกธงขาว ยอมแพ้จากคู่แข่งโดยตรงอย่าง PES ที่ปรับตัวเองมาเป็นเกมฟรี ในชื่อ eFootball อย่างเป็นทางการ เป็นอันปิดตำนาน “วินนิ่ง” ที่ใคร ๆ ก็หลงใหลไปในที่สุด
ฉะนั้นเราจะมา รีวิวและพูดถึง FIFA เกมที่ยืนหนึ่ง (มาซักพักแล้วล่ะ) ในปัจจุบัน หลังจากเบียดเอาชนะ PES ได้อย่างเด็ดขาด ทั้งในเรื่องของ ภาพ แสง สี เสียง ระบบการเล่น และระบบเกมเล่นอแบบออนไลน์ ที่เหนือชั้นกว่าชัดเจน เรามาดูกันดีกว่าว่า ฟีฟ่า 22 ปรับปรุงอะไรขึ้นมาบ้าง หรือปรับเปลี่ยนตรงไหน เพื่อความสมดุลของตัวเกม
โหมดการเล่นเยอะครบถ้วนทุกความสนุก
ในภาค 22 นี้ ตัวเกมก็ยังมีครบทั้งระบบ Multiplayer ทั้ง ออฟไลน์ และ ออนไลน์ ,โหมด VOLTA FOOTBALL หรือง่าย ๆ คือ ฟุตซอล หรือ สตรีทฟุตบอลนั่นแหละ ,โหมดออนไลน์ยอดฮิตอย่าง FIFA 22 ULTIMATE TEAM สังเวียนของเหล่าคนจริงทั้งหลาย ทั้งสายฟรี และสายเติม ที่จะเข้ามาปลุกปั้นทีมของตัวเอง จากง่อย ๆ สู่ความเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าจะด้วยฝีมือล้วน ๆ หรือ การซื้อและสรรหานักเตะ เข้ามาสู่ทีม
การสร้างทีมก็สามารถทำได้ทั้งการซื้อ-ขายในเกม หรือเปิด PACK (สุ่มกาชา) อันเป็นสเน่ห์ของเกม และสุดท้าย Career Mode หรือ โหมดที่ให้เราเล่นเป็น Full Season สามารถทำได้หมด ทั้งซื้อขายนักเตะ ฝึกซ้อมนักเตะ พัฒนานักเตะในทีมของคุณ (มันก็คือฟุตบอลเมเนเจอร์ ที่เราสามารถคอนโทรลผู้เล่นเองได้)
และสุดท้าย PRO CLUB โหมดที่ให้เราสร้างตัวละครขึ้นมา 1 ตัว และบังคับตัวละครนั้นเพียงแค่ตัวเดียว เพื่อนำไปเล่นร่วมกับคนอื่นอีก 10 คน (น่าสนุกใช่ไหมล่ะ วุ่นวายสุด ๆ โหมดนี้)
น้ำปลาที่ว่าเค็ม ยังไม่เท่าระบบเปิด PACK ของ ULTIMATE TEAM
เรียกว่าเป็น โหมดยอดฮิตของบรรดาคนเล่น ฟีฟ่า เลยล่ะ คือซื้อมาเพื่อนเล่นโหมดนี้โดยเฉพาะ FIFA ULTIMATE TEAM (FUT) คืออะไร ? คำตอบคือ โหมดการเล่นที่ให้เรา สร้างทีมขึ้นมาเองจาก 1 โดยเริ่มแรกจะมีการสุ่มนักเตะมาให้จากแพคนักเตะที่เราเลือก แล้วเราก็ค่อย ๆ เล่น ค่อย ๆ เก็บเงินซื้อนักเตะ หรือทำเควสต่าง ๆ เพื่อเปิด Pack
เอาจริง ๆ มันก็ฟีลเดียวกันกับ ฟีฟ่า ออนไลน์ นั่นแหละ เพียงแต่ว่า หลาย ๆ อย่าง มันดูดีกว่า รวมไปถึงตัว Engine ของเกม ที่สมูท ไหลลื่นกว่า ฟีฟ่า ออนไลน์เป็นไหน ๆ
แต่ความสนุกของการสร้างทีมใน FUT นั้นมันมีสเน่ห์ และมีความยากกว่า หากเทียบกับอย่างฟีฟ่าออนไลน์ ที่ซื้อง่าย ขายคล่อง เน้นตีบวก และเติมเงินแลกเอา Point อะไรต่าง ๆ แต่ใน FUT นั้น เติมพ้อยท์ได้ แต่พ้อยท์ซื้อนักเตะไม่ได้
เพราะจะต้องเอามาซื้อแพคนักเตะ เพื่อมาลุ้นกันอีกเฮือกว่า ไอ้ที่เสียไปน่ะ มันคุ้มค่าแค่ไหน บอกเลยว่า ทำใจกันเอาไว้เยอะ ๆ เพราะบางคนหมดเป็นแสน แขนยังไม่ได้จับก็มี
การเติมเงินซื้อซัก 10 แพค 100 แพค มันมีค่าเท่ากับ สายฟรี อดทนเล่น จนได้ 10 แพค 100 แพค เพราะโอกาสได้นักเตะมันเท่ากัน คนที่เล่นฟรีจนได้แพค กับคนที่เงินซื้อแพค ต่างกันแค่ความง่ายในได้การแพคนักเตะมาเปิดเท่านั้น
เช่น ผมอยากได้ Paul Pogba มาก ๆ เติมซื้อไปเลย 10 แพค เอาล่ะ มันต้องมา มันต้องมี เติมขนาดนี้ จะไม่ได้ได้ยังไง สุดท้าย “เกลือยังเรียกพี่” คุณอาจไม่ได้อะไรเลย จนอยากจะปาจอย หรือทุบคีย์บอร์ดเลยทีเดียว
ส่วนคนทีเป็นสายฟรี ก็อาจจะเกลือ เหมือนสายเติม หรืออาจจะเปิดทีเดียวเข้าข้อ ไม่ได้ป็อกบา แต่ออกมาเป็น เมสซี่ หรือ โรนัลโด้ ก็มีให้เห็นถมเถ เพราะฉะนั้น กาชา เกมนี้อยากให้จำไว้เลยว่า มีความเสี่ยงทุกการลงทุน เงินแค่ทำให้มีโอกาสลุ้นนักเตะได้มากกว่า และเร็วกว่าคนที่ไม่เติม แต่โอกาสทุกอย่างเงินซื้อไมได้ อันนี้คอมเฟิร์ม (เพราะ หมดไปหมื่นยังเป็นง่อยอยู่เลย T T)
แต่กระนั้น โหมด FUT ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยสเน่ห์ในตัวมันที่ไม่ใช่ว่า จะจับยัด ๆ ใครลงไปก็ได้ แต่ ต้องให้ตรงเงื่อนไข เนื่องจากมันจะมีค่า CHEMISTRY หรือ ความเข้ากันได้ จะด้วยเงื่อนไขที่นักเตะจะต้องมาจากสโมสรเดียวกัน หรือลีคเดียวกัน หรือชาติเดียวกัน ต้องเอาคนนั้นมายืนตรงนี้ เพื่อจะให้เชื่อมกับคนนั้น ตรงตำแหน่งนี้ โอยยย! ปวดหัว แต่เชื่อเถอะ ว่ามันสนุกตรงนี้ ใครที่เคยเล่นจะเข้าใจดี ว่ามันฟินมาก ๆ
FUT CHAMP ก็แข็ง AI โหด
จัดทีมแล้ว ก็ต้องส่งลงสนาม ในการเล่นแบบ FUT CHAMP ก็คือการออนไลน์เจอกับผู้เล่นอื่นนั่นแหละ ซึ่งบอกเลยนะว่า “แข็งโป๊ก” ทีมคุณอาจจะรวมดาวมหาเทพแห่งวงการ แต่ด้วยความที่มัน World wide (แม้จะสุ่มเจอในโซนใกล้ ๆ กันนั่นแหละ) ยอดฝีมือจากทั่วทุกสารทิศ จะประเดประดัง ใส่ทุกแทคติค อัดทุกทริค กดทุกกระบวนท่าเข้าใส่คุณ
โดยเฉพาะในในแพลทฟอร์มของเครื่อง Console แล้วล่ะก็ บอกเลยว่า ร้อนจี๋ แบบย่างหมูกะทะได้ ฉะนั้นจะให้ดี ก่อนจะลงสนามจริง เราขอแนะนำระบบ SQUAD BATTLE หรือการนำทีมของคุณไปแข่งกับ AI ก่อน ซึ่งบอกเลยว่า โหดโคตร ๆ แม้จะไม่เท่าพวกเหล่ายอดมนุษย์ แต่ก็ถือว่าเป็นคู่ซ้อมที่ดี เอาเล่นเก็บแต้ม ทำ Objective ต่าง ๆ เก็บเงิน ซื้อนักเตะ เปิดแพค หรือถ้าทนไม่ไหวจริง ๆ ก็เติมเงินไปเสี่ยงเอาดาบหน้าไปเลยแล้ว ร้อน ไม่ไหว! พอ! หมดความอดทน!
ใจเย็น ๆ ก่อน มันไม่ได้ขนาดนั้น ค่อย ๆ เล่น ค่อย ๆ ปั้น เดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง (มั้ง ?)
ปรับ Balance เปลี่ยนสมดุล สายเลี้ยง พลิ้วไม่ออกนะบอกเลย
จุดเด่น จุดแข็งของเหล่าเซียน คือ ความพลิ้วไหว ในการคอนโทรลนักเตะ Skill move ระดับ 4 – 5 ดาว อย่าง เนย์มาร์ ,โรนัลโด้ ,เมสซี่ หรือ เอมป็าปเป้ แต่บอกเลยว่า ภาคล่าสุดนี้ มีการเนิร์ฟเกิดขึ้น ไม่ใช่ครับ EA ไมได้เนิร์ฟนักเตะให้แย่ลง แต่เนิร์ฟระบบมันต่างหาก การเลี้ยงแต่ละครั้ง ทั้งก่อนและหลังการคอนโทรลจะมีดีเลย์หน่อย ๆ ซึ่งมันเป็นโอกาสให้คนที่เล่นเกมรับมีโอกาสให้แย่งบอลได้มากขึ้น ไม่ใช่ประเภทที่ว่า โยกซ้ายไปซ้าย โยกขวาไปขวา แบบที่คนเล่นเกมรับได้แต่ยืนมอง นั่งยิ้มแบบตาปริบ ๆ
แต่ทั้งนี้ ใครที่ปรับตัวได้ไว ก็คงไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก แต่อย่างน้อย ๆ มันก็ทำให้ สมดุลรุก – รับ มีมากขึ้น คนที่สกิลเพลย์ไม่สูงมาก ก็มีโอกาส ชนะ ด้วยแทคติค แผนการเล่น หรือชั้นเชิงในรูปแบบอื่นมากขึ้น (ภาคเก่า แทคติคไปเถอะ หลบที 3-4 คน ไม่ไหว ปาจอย!)
อีกอย่างที่น่าสนใจ คือ ค่าพลังของนักเตะ ที่ลดความเหลื่อมล้ำลงไปค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น นักเตะความเร็ว (PAC) 70 กับ ความเร็ว 80 ก็ไม่ใช่จะวิ่งทิ้ง วิ่งฉีกกันเป็นทุ่งเมื่อก่อนได้อีกแล้ว
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ ในเรื่องของรายละเอียดของระบบการเล่นที่ภาคนี้ปรับได้ละเอียดขึ้น มีคำสั่งให้นักเตะทำในแผนของเราได้หลากหลายมากขึ้น อย่างที่บอกไปว่า พวกสาย Skill play จะโดนเนิร์ฟลงไป สาย Tactic จะมีโอกาสมากขึ้น เรียกว่า ให้ความสำคัญกับตัวนักเตะ และแบบแผนมากกว่า ตัวบุคคล ซึ่งตรงนี้คือสิ่งที่ชอบมาก ๆ (เพราะสกิลเพลย์กาก แหะ ๆ)
ภาพดี กราฟฟิคสวย งดงาม และจัดเต็ม
ในส่วนนี้ เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้หลายคนเข้ามาเล่น FIFA และก็ติดใจจนเป็นขาประจำ ถ้าเปรียบเทียบ เราจะจีบสาว (หนุ่ม) ซักคน สิ่งแรกที่เห็นก็คงจะเป็นหน้าตา ที่หากว่าถูกใจ ก็ขอลองลุยดูหน่อย เช่นกันกับเหล่าเกมเมอร์สมัยนี้ เกมเพลย์เป็นยังไงเดี๋ยว่ากัน แต่ถ้าภาพสวย อือ ต้องพิจารณา!
ฉะนั้น ฟีฟ่า 22 นี้ ไม่ทำให้คุณผิดหวังเลย ความสมจริงคือสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมาก ตัวนักเตะหน้าเหมือนตัวจริง เป๊ะ ไมได้ต้องมานั่งนึกว่า “นี่ใครฟะ” ในการ์ดเป็นยังไง ตัวในเกมก็เป็นอย่างนั้น
ที่สำคัญ movement ต่าง ๆ ก็สมจริง เหมือนกับเอานักเตะจริง ๆ มาลงสนาม (อย่างกับดูถ่ายทอดสด) เพราะภาคนี้เขาใช้ระบบ Next-gen HyperMotion technology ที่นำเอานักเตะจริง ๆ มาทำการ Motion Capture มันเล่ยทำให้ท่วงท่าต่าง ๆ ออกมาเป๊ะสุด!
สรุป
เลยแล้วกัน สำหรับ FIFA 22 นี้ เกมดีที่โลกรออีกแล้ว ยังคงมาตรฐานความสนุกในทุก ๆ อย่าง แม้โหมดการเล่นอาจไม่ได้มีเพิ่มเติม การเปิดแพคต่าง ๆ ยังคงความเกลือไว้เช่นเคย แต่ด้วยการที่เพิ่มดีเลย์ในการเลี้ยงบอล หรือการใช้ สกิลมูฟต่าง ๆ เข้าไป
การที่ลดความเหลื่อมล้ำของค่าพลังนักเตะ การเพิ่มรายละเอียดในการปรับแทคติคต่าง ๆ ให้หลากหลายขึ้น มันก็ทำให้ ภาคนี้ ยังคงความสนุกไว้แบบเต็มเปี่ยมเช่นเคย!