More
    spot_img

    4 ผู้นำหญิงสุดแกร่งระดับประเทศ

    Inzpy ขอนำเสนอเรื่องราวของ 4 ผู้นำหญิงสุดแกร่งระดับประเทศ ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าผู้หญิงก็สามารถเป็นผู้นำระดับประเทศได้ 

    หากย้อนกลับไปพูดถึงเพศหญิงในอดีต หลายคนคงจะนึกถึง สถานภาพ บทบาท และหน้าที่ทางสังคมที่แตกต่างไปจากเพศชายอย่างชัดเจน แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้แล้วว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ก็สามารถก้าวขึ้นไปรับตำแหน่งสำคัญทางสังคมได้เช่นกัน ทำให้ผู้นำหญิงหลายคนสามารถลบภาพจำเดิม ๆ ออกไปได้

    เริ่มต้นกันที่ ผู้นำหญิงสุดแกร่ง คนแรก  

    ผู้นำหญิง

    Kamala Harris (กมลา แฮร์ริส) รองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน 

    จากทนายความและวุฒิสมาชิกที่ประสบความสำเร็จ สู่รองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา แฮร์ริส เป็นหญิงเชื้อสายอินเดียน – แอฟริกันที่ทำงานเพื่อปรับปรุงโลกและจูงใจผู้นำในอนาคต เธอแสดงให้ผู้หญิงทุกวัยเห็นว่าพวกเธอสามารถบรรลุความฝันได้ การได้เห็นผู้หญิงเข้าทำเนียบขาวเป็นแรงบันดาลใจอย่างน่าเหลือเชื่อ

    4 ผู้นำหญิงสุดแกร่งระดับประเทศ คนต่อมา 

    Jacinda Ardern (จาซินดา อาร์เดิร์น) อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ 

    อาร์เดิร์น เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์ ในปี พ.ศ. 2560 เมื่อเธออายุได้ 37 ปี เธอได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นไม่ถึง 1 ปี เธอได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก และตั้งแต่นั้นมาเธอได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญกับลูกสาวของเธอบนตัก การใช้สัญชาตญาณความเป็นแม่และความเป็นผู้หญิงของเธอช่วยให้นำสังคมไปสู่ความสามัคคีและการเปลี่ยนแปลง  เธอได้ดำเนินการต่อต้านการใช้ความรุนแรงจากปืนอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว นอกจากนั้นและความเป็น ผู้นำหญิง ที่แข็งแกร่งของเธอสามารถทำช่วงการระบาดใหญ่จากไวรัส ทำให้ชาวนิวซีแลนด์เสียชีวิตเพียง 26 คน ปัจจุบัน อาร์เดิร์น ได้ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์แล้ว เมื่อว่าที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา

    4 ผู้นำหญิงสุดแกร่งระดับประเทศ คนต่อมา 

    ผู้นำหญิง

    Sanna Marin (ซันนา มาริน) นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์คนปัจจุบัน 

    ฟินแลนด์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกและมีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก แต่ฟินแลนด์ก็มีกฎหมายที่กดขี่ นั่นคือ “the Trans Act” ซึ่งกำหนดให้บุคคลข้ามเพศต้องได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพจิตและทำหมันหากพวกเขาต้องการได้รับการยอมรับด้านเพศตามกฎหมาย มาริน ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น เธอพูดเพื่อสนับสนุนสิทธิของผู้คนว่า “ไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่จะระบุตัวตนของบุคคลอื่น เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะระบุตัวตนของตนเอง” มาริน เป็นผู้นำรัฐบาลผสมที่มีหัวหน้าพรรคการเมืองเป็น ผู้นำหญิง ทั้งหมด เธอสนับสนุนที่จะยุติ “the Trans Act” ในนามของเฟมินิสต์ เธอพยายามขจัดแนวคิดที่ล้าสมัยเกี่ยวกับบรรทัดฐานทางเพศ และรับรองว่า ทุกคนสามารถกำหนดได้ว่าตนเองเป็นใครและสามารถดำเนินชีวิตตามที่ตนต้องการได้

    ผู้นำหญิงคนสุดท้าย 

    Nemonte Nenquimo (เนมอนเต เนนกิโม) ผู้นำแห่งเผ่าวาโอรานี (Waorani) ประเทศเอกวาดอร์

    แม้ว่าการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในฝั่งตะวันตกมักเป็นพวกผิวขาวและผู้ชาย แต่เสียงที่ทรงอิทธิพลที่สุดเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก คือ เสียงของ  เนนกิโม ผู้นำหญิง จากชนเผ่าวาโอรานี ในป่าแอมะซอนของเอกวาดอร์ เช่นเดียวกับชุมชนพื้นเมืองมากมายทั่วโลก ชาววาโอรานีกำลังปกป้องดินแดนที่พวกเขารู้จักดีที่สุด  เนนกิโม ชนะคดีกรณีพิพาทกับบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่หลายแห่งที่เข้ามาสำรวจการขุดเจาะน้ำมันในถิ่นอาศัยของพวกเขา

    ในขณะที่ไฟลุกลามป่าฝนแอมะซอน มีคนเข้ามาทำลายผืนป่า เธอได้ปลุกจิตสำนึกให้ทั่วโลกตระหนักถึงวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เธอเขียนในบทความที่ตีพิมพ์โดย The Guardian ว่า “โลกไม่ได้คาดหวังให้คุณช่วยชีวิตเธอ แต่คาดหวังให้คุณเคารพเธอ และเราในฐานะชนพื้นเมืองก็คาดหวังเช่นเดียวกัน”

    และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ 4 ผู้นำหญิงสุดแกร่งระดับประเทศที่น่าสนใจทั้งสิ้น

    ขอบคุณข้อมูลจาก Techsauce 

    ภาพจาก www.flickr.com

    PLENG
    PLENG
    #เพราะชีวิตคือการเดิน แต่ชีวิตพลิกผัน ดันมาเป็น Content Entertain ที่พร้อมจะบรรเลงทุกความสนุกให้โลกได้รู้ !!!

    Related Post

    Most Popular

    Recommended