Tissot – ทิสโซต์ เฉลิมฉลองเปิดตัวบูทีคแห่งแรกในประเทศไทยใจกลางเมืองที่ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ออกแบบร้านภายใต้คอนเซ็ปต์ Safe Design ที่มีการตกแต่งที่โดดเด่นด้วยประตูอัตโนมัติที่มีแสงส่องสว่างอย่างน่าทึ่งบริเวณทางเข้า ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศความตื่นตาตื่นใจตั้งแต่เริ่มก้าวเท้าเข้าสู่บริเวณร้าน พร้อมกันนี้ยังมีดิสเพลย์จัดแสดงโชว์รวมเรือนเวลาที่ตั้งอยู่ตรงกลางกระจกอินฟินิตี้เพื่อสร้างภาพหลากมิติที่น่าประทับใจให้ลูกค้าสามารถสัมผัสความงดงามและรายละเอียดของนาฬิกาแต่ละเรือนได้อย่างชัดเจน ด้านข้างบริเวณประตูทางเข้าหลักสามารถมองเห็นหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ และหากมองจากหน้าโครงการจะเห็นบริเวณด้านข้างร้านเป็นผนังกระจกใสสูง 3 เมตร ช่วยเพิ่มความสว่างภายในร้านและยังสามารถมองจากข้างนอกโครงการเข้ามาภายในบริเวณร้านได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ภายในร้านยังมีเล้าน์จต้อนรับลูกค้าผู้มาเยือนเพื่อความสะดวกสบายขณะเยี่ยมชมสินค้าอีกด้วย
พร้อมแนะเรือนเวลาดีไซน์โดดเด่นในด้านของฟังก์ชันที่สามารถเลือกสรรมอบเป็นของขวัญแก่คนพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเพื่อเติมเต็มบรรยากาศแห่งความสุขด้วยกัน เริ่มที่กลุ่มเรือนเวลาที่โดดเด่นในด้านดีไซน์คลาสสิก สวมใส่ได้อย่างมีสไตล์ในทุกโอกาส ประกอบด้วยรุ่น “พีอาร์ 100 โครโนกราฟ ดาร์ค บลู ควอตซ์” (PR100 Chronograph Dark Blue Quartz) มาพร้อมกับระบบโครโนกราฟเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานสำหรับการจับเวลา ช่วยให้บริหารจัดการงานซึ่งต้องใช้การบอกเวลาที่แม่นยำได้อย่างราบรื่น ผลิตจากวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม สามารถสวมใส่ได้อย่างลงตัวทั้งในหลากหลายโอกาส ทำให้กลายเป็นเรือนเวลาที่นักสะสมนาฬิกาทุกคนต้องมี และรุ่น “เจนเทิลแมน ไอซ์ บลู พาวเวอร์เมติค 80” (Gentleman Ice Blue Powermatic 80) นาฬิกาที่มีตัวเรือนหน้าปัดสีน้ำเงินไอซ์บลูโดดเด่นสะดุดตาขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติที่สามารถสำรองพลังงานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงผลิตจากซิลิคอนช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทาน และยังมอบความแม่นยำที่เหนือชั้นและประสิทธิภาพที่คงทนยาวนาน ซึ่งแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ของทิสโซต์ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนรักนาฬิกาที่หลงไหลในงานฝีมือสุดประณีต
ถัดมาที่กลุ่มเรือนเวลาดีไซน์สไตล์วินเทจที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันทันสมัย อย่างรุ่น “พีอาร์เอ็กซ์” (PRX) ซึ่งมีต้นกำเนิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 โดย PRX นั้นมาจากคำว่า Precise (ความแม่นยำ), Robust (ความทนทาน) และ X ที่สื่อถึงการกันน้ำได้ในระดับ 10 บาร์ ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ได้ผสมผสานความแม่นยำ พร้อมความทนทาน และเสน่ห์ดึงดูดความทันสมัยแบบย้อนยุคเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายด้วยขนาดหน้าปัดที่มีให้เลือกทั้ง 35 มม. และ 25 มม. มาพร้อมกลไกที่มีให้เลือกทัั้งแบบอัตโนมัติและควอตซ์ โดดเด่นด้วยหน้าปัดโทนสีฟ้าไอซ์บลูพร้อมลูกเล่นลวดลายวาฟเฟิล ซึ่งกรอบหน้าปัดและตัวเรือนนั้นผลิตจากสแตนเลสสตีลที่แข็งแรงทนทาน และอีกหนึ่งตัวเรือนมาในขนาด 25 มม. โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีมุกเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการลุคที่ดูหรูหราน่าจับตามอง
ปิดท้ายที่กลุ่มเรือนเวลา Tissot – ทิสโซต์ ที่ One Bangkok สำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์สปอร์ต ประกอบด้วยรุ่น “ซีสตาร์ 1000 พาวเวอร์เมติก 80” (Seastar 1000 Powermatic 80) ในตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีดำเข้มสุดเท่ นับได้ว่าเป็นเรือนเวลาที่เหมาะกับคนรักกิจกรรมผจญภัยทางน้ำด้วยคุณสมบัติกันน้ำลึกได้ถึง 30 บาร์ หรือ 300 เมตร ที่สามารถใช้งานได้จริงทั้งใต้ท้องทะเลและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ต่อมาที่รุ่น “ที-ทัช คอนเนค สปอร์ต” (T-Touch Connect Sport) ที่มีให้เลือกหลากหลายสีสัน เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบเทคโนโลยีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อความพร้อมตลอดเวลา ผสมผสานสไตล์และการใช้งาน ออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์คนที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และรุ่น “พีอาร์ 516” (PR 516) เป็นนาฬิกาที่ผสานมรดกของมอเตอร์สปอร์ตจากยุค 1970 เข้ากับองค์ประกอบร่วมสมัย นำเสนอผ่านตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 40 มม. และหน้าปัดแบบไดนามิก ซึ่งผสมผสานจิตวิญญาณแห่งความเร็วและความแม่นยำ มาพร้อมกับกลไกควอตซ์ ซึ่งมอบความแม่นยำที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง พร้อมขอบหน้าปัดที่มีมาตรวัดความเร็วที่ใช้งานได้จริง
บทความที่น่าสนใจ
สวยตาแตก ‘ลิซ่า’ นั่งมอเตอร์ไซค์เปิดสเตจได้จึ้งเว่อร์ใน 2024 Victoria’s Secret Fashion Show
ครบจบประสบการณ์กิน-เที่ยว-ช้อป กับ จิม ทอมป์สัน ไลฟ์สไตล์สโตร์ แห่งแรก ณ วัน แบงค็อก
อาโป-ณัฐวิญญ์ และ อีจุนโฮ เผยลุคสุดคูล พร้อม POLO SKELETON CERAMIC บนข้อมือ