เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่า ทำไมถึงต้องกิน ขนมขิง ในช่วง เทศกาลคริสต์มาส เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จนได้ไปหาข้อมูลและรวบมาไว้ให้สำหรับใครที่ก็กำลังสงสัยแบบเราอยู่ ใครอยากรู้ตามมาอ่านกันเลยค่า
ขนมขิง หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า ขนมปังขิง (Gingerbread) เป็นขนมปังที่มีขั้นตอนการอบที่แตกต่างจากขนมปังทั่วไปโดยสิ้นเชิง มักจะนิยมทานกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยในส่วนผสมจะประกอบไปด้วยน้ำผึ้ง เครื่องเทศอย่างพริกไทย อบเชย ซึ่งเป็นขนมปังที่ไม่มีส่วนผสมยีสต์ และบางที่ก็ไม่ผสมแป้งด้วย
มีหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่บันทึกเกี่ยวกับขนมขิง เมื่อราว ๆ 350 ปีก่อนคริสตกาล ชาวอียิปต์โบราณ มีขนมอบที่ใช้น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวาน และเป็นขนมที่ต้องใช้ในพิธีศพ ส่วนชาวโรมันมีขนมที่เรียกว่า พานุส เมลลิทุส (Panus Mellitus) ซึ่งก็คือ ขนมที่ทาหน้าด้วยน้ำผึ้ง แล้วนำไปอบ
ในสมัยก่อนนั้นต่างจากปัจจุบันก็คือ การรับประทานขนมขิงไม่เพียงแค่นิยมเฉพาะในเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเทศกาลอีสเตอร์ด้วย (เทศกาลฉลองการคืนชีพของพระเยซู) และยังนิยมกินในช่วงเวลาถือศีลอด
Gingerbread Man
ในปัจจุบันนี้ขนมขิงจัดเป็นขนมอบยอดนิยมสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยมีชื่อเรียก และรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปมากมายตามแต่ละภูมิภาค และเริ่มมีการกดทับทำเป็นลวดลายต่าง ๆ ซึ่งลายหนึ่งที่รู้จักกันทั่วโลกก็คือ “มนุษย์ขนมขิง” หรือ จินเจอเบดแมน (Gingerbread Man) จากประเทศแถบที่ใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งมีรูปร่างเป็นคนแบบปั้นง่าย ๆ โดยไม่มีรายละเอียดมือและเท้า
บ้านขนมปังขิง (Gingerbread House)
ชาวเยอรมันเป็นผู้ริเริ่มทำขนมปังขิง หรือคุกกี้ขิง เป็นรูปบ้านก่อนใคร โดยแต่ละครอบครัวจะมีการทำขนมเป็นรูปบ้าน แล้วให้เด็ก ๆ ในครอบครัวเป็นคนตกแต่ง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากนิทาน Hansel and Gretel (เขียนไว้เมื่อปี 1812) ที่ในเรื่องจะมี พ่อมดอยู่ในกระท่อมที่ทำด้วยคุกกี้ และลูกกวาด
และในการทำอาหารที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนว่า ขิง เป็นตัวช่วยในการถนอมอาหาร ทั้งยังมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพ และระบบย่อยอาหาร ในการทานขิงนั้นยังมีฤทธิ์ร้อน จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นเวลากิน ซึ่งในช่วงคริสต์มาสตรงกับช่วงหิมะแรกพอดีที่จะเข้าสู่ฤดูหนาวพอดี จึงนิยมรับประทานเพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
หวังว่าบทความนี้พอจะได้บทสรุปมาจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ ช่วงคริสต์มาสนี้ก็อย่าลืมไปลองหามากินกันดูน้า อาจจะเป็นขนมที่ชื่นชอบไปเลยก็เป็นได้
_____
ติดตาม Inzpy ได้ที่
Website:
https://inzpy.com/travel/
Youtube:
https://www.youtube.com/c/Inzpy
Facebook:
https://www.facebook.com/inzpyth
