เมื่อประเทศญี่ปุ่นเปิดแล้ว ก็มาป้ายยากันหน่อย กระตุ้นต่อมเที่ยวเพื่อน ๆ สำหรับใครกำลังที่จะไปเที่ยว โตเกียว บอกเลยว่าต้องห้ามพลาด ที่นี่มีหลายย่านที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยกันเลยทีเดียวค่ะ จะไปเที่ยวทั้งครอบครัวก็ยังได้ มีโซนไหนน่าไปบ้างมาดูกันเลย
1. Akihabara Tokyo’s Anime & Gadget Town
ย่านที่มีชื่อเสียงโด่งด่างในโตเกียวทางฝั่งตะวันออก เป็นย่านของเหล่าบรรดาโอตาคุ และมนุษย์เงินเดือน เป็นย่านเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้า และเป็นย่านที่รวมตัวของคนรักอนิเมะ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ หรือร้านอาหารก็จะเต็มไปด้วยอนิเมะที่ดึงดูดอยู่เต็มไปหมด เป็นย่านเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่ก็ให้ความสนใจกับย่านนี้เป็นอย่างมาก
2. Asakusa – Tokyo’s Traditional Cultural Center
หากเดินไปฝั่งตะวันออกเพียงเล็กน้อยจากอากิฮาบาระ ก็จะเจออีกย่านหนึ่ง ถือเป็นย่านประวัติศาสตร์ของโตเกียวคือ อาซากุสะ เมื่อเดินไปตามทางถนนเส้นเล็ก ๆ เดินผ่านประตู Kaminarimon และเดินต่อไปยังวัด Sensoji ซึ่งเป็นจุดที่หลายคนมาสักการะบูชากันเป็นจำนวนมาก และบริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย บรรยากาศแบบเมืองเก่าเมื่อหลายร้อยปีก่อน ผู้คนส่วนใหญ่ที่มายังสถานที่แห่งนี้ก็มักจะแต่งชุดกิโมโนน่ารัก ๆ มาเดินถ่ายรูปกันเต็มไปหมด และยังเป็นอีกจุดหนึ่งสามารถมาชมดอกซากุระที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำสุมิดะได้ในช่วงเดือนเมษายน อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ก็จะเป็นปลาไหลญี่ปุ่นค่ะ
3. Ikebukuro – The Other Akihabara
อิเคะบุคูโร เป็นย่านศูนย์การค้า ย่านเศรษฐกิจเช่นเดียวกับชินจูกุ และชิบูย่า เป็นอีกจุดศุนย์กลางที่รวมวัฒนธรรมหลากหลาย บริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ตึกสูงมากมาย มีร้านค้าที่ตั้งขายของเรียงรายอยู่หน้าสถานีรถไฟ หลัง ๆ เริ่มโด่งดังในฐานะเมืองแห่ง Sub Culture จึงได้รับความนิยมมากขึ้นที่สามารถมาเดินเที่ยวชมวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้หลากหลายมุม เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคุณผู้หญิง มีของให้ช็อปเยอะจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนเลยล่ะค่ะ
4. Harajuku – Tokyo’s Chic Capital
ฮาราจูกุ จุดศูนย์รวมของเหล่าบรรดาวัยรุ่นญี่ปุ่นมากมาย เรียกได้ว่าเป็นย่านสายแฟชั่น ด้วยบรรยากาศที่เป็นย่านสุดชิค เราจะสามารถพบเห็นแฟชั่นใหม่ ๆ ของญี่ปุ่นได้จากย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็น กอสโลลิ ร็อก หรือแร็บ ถูกรวบมารวมไว้ในย่านนี้ทั้งหมดเลยค่ะ สายแฟชั่นห้ามพลาดเชียวแหละ หากเดินไปตามถนนทะเคชิตะก็จะพบกับซอยที่เรียกได้ว่าเป็น Cat Street ซอยนี้จะเน้นขายของที่เหมาะสำหรับวัยกลางคนที่ชอบลุคแบบดูดี เรียบง่าย หรือหากอยากได้แนวแบรนด์หรู ก็แนะนำให้ไปยังโอโมเตะซันโดค่ะ ที่นั้นจะรวมสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่
5. Roppongi – Tokyo’s Nightlife Center
รปปงหงิ เป็นเหมือนอีกเมืองที่มีการพัฒนาขนาดใหญ่ เช่น รปปงหงิฮิลส์ ตามถนนหนทางดูครึกครื้น เต็มไปด้วยความเร่งรีบของพนักงานออฟฟิศ และถือเป็นย่านสถานบันเทิงมากมายในยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียงมากมาย เราจะเห็นนักท่องเที่ยวที่ล่องเรือไปตามเส้นถนนเพื่อหาบาร์ ร้านอาหารที่น่าสนใจสำหรับการมานั่งดื่มด่ำบรรยากาศ ถึงแม้รปปงหงิจะเป็นย่านขนาดใหญ่ แต่ส่วนใหญ่คนก็มักจะไปรวมตัวกันอยู่ รปปงหงิฮิลส์ เรียกได้ว่าเป็นโตเกียวมิดทาวน์อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ แถมที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ โมริ ให้เราไปเดินเสพงานอาร์ตที่หอคอยรปปงหงิฮิลส์ โมริ บนชั้น 53 ได้ด้วย
6. Shinjuku – Culture Clash
ชินจูกุเมืองใหญ่ระดับโลก ในช่วงเวลากลางวันจะเป็นช่วงเวลาคนทำงาน ส่วนช่วงเวลากลางคืนจะเป็นแห่งสังสรรค์ที่ครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เรียกได้ว่าเป็นสถานบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียเลยก็ว่าได้ รวมไปถึงมีที่พักมากมายราคาไม่แพงมากให้เลือกพัก จึงทำให้เป็นจุดศูนย์รวมกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วย จะเห็นผู้คนมากมายที่เดินสัญจรกันอย่างคับคั่ง เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของชินจูกุที่เป็นเอกลักษณ์ใครที่ไปเที่ยวก็อยากมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ ถ้าไปแล้วไม่เจอแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก
7. Shibuya – Tokyo’s Youth Capital
ชิบูย่าเมืองที่โดดเด่นในเรื่องของถนนห้าแยกที่มีคนเดินผ่านไปมาอย่างรวดเร็วและคับคั่ง ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งเทรนด์สมัยใหม่ ไม่ว่าจะช่วงเวลากลางวัน หรือกลางคืน สถานีชิบูย่าก็จะมีคนสัญจรอยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นหนุ่มสาว ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นย่านที่โด่งดังที่สุดในโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่นจากทั่วโลกอีกแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า และร้านค้าขนาดใหญ่มากมาย และยังมีแหล่งรวมภัตตคารที่น่าสนใจอีกมากมายในบริเวณโทเก็นซากะ รวมไปถึงคลับ บาร์ ที่มีให้เลือกอีกมากมาย
8. Nakameguro
นากาเมกุโระ ย่านที่อยู่ตรงแม่น้ำเมกุโระ อยู่ใกล้กับเอบิสุ และไดคังยามะ เป็นแหล่งกำเนิดแฟชั่นที่มีบทบาทในฐานะย่านชุมชนแห่งความศิวิไลซ์ ระหว่างทางเต็มไปด้วยร้านกาแฟ ร้านอาหารมากมาย รวมไปถึงร้านขายของตกแต่งภายใน ร้านขายเครื่องประดับ ที่นี่ยังมีรางรถไฟนากาเมกุโระ ช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายนจะมีต้นซากุระที่ผลิดอกเบ่งานสวยงามอยู่ริมแม่น้ำจนเกิดเป็นอุโมงค์สีชมพู นักท่องเที่ยวจึงเลือกมาชมดอกซากุระกันที่นี่
9. Shimokitazawa – Alternative Tokyo
หนึ่งย่านน่ารัก ๆ ในโตเกียว Shimokitazawa เหมาะสำหรับมาเดินเล่น นั่งร้านกาแฟจิบกาแฟ กับขนมหวาน ถ่ายรูปสวย ๆ คนไม่ค่อยพลุกพล่าน สองฝั่งถนนเล็ก ๆ ของที่นี่จะเต็มไปด้วยร้านค้าที่ตั้งเรียงรายอยู่มากมาย บรรยากาศเหมือนเมืองเก่า มีกลิ่นอายความเป็นวินเทจเบา ๆ แล้วก็จะมีพวกสินค้ามือสองที่สภาพดีมาขายด้วยนะคะ หากโชคดีก็อาจจะได้ของแบรนด์ก็ได้นะ ใครที่ชื่นชอบเสน่ห์ของสินค้ามือสองก็แนะนำเลยค่ะ
10. Kichijoji – “Experience Japan’s rural life within Tokyo”
และก็มาถึงสถานที่เที่ยวที่สุดท้ายในโตเกียวที่จะมาแนะนำในวันนี้ ที่นี่ก็คือ คิชิโจจิ เป็นย่านที่ติดอันดับต้น ๆ ในการจัดลำดับเมืองน่าอยู่ มีสวนอิโนะคาชิระที่ร่มรื่น เหมาะแก่การเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ที่เปิดมาเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินชมซากุระที่เบ่งบานสวยงาม มีร้านกาแฟน่ารัก ๆ แล้วก็ร้านขายของกระจุกกระจิกมากมาย เดินเพลิน ๆ ได้ไม่มีเบื่อ ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์จิบลิ (พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมระดับโลก) มีตัวละครอนิเมะดัง ๆ อย่าง Tonari no Totoro และ LAPUTA : Castle in the sky เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ หรือถ้าหากอยากดื่มก็จะตรอกฮาร์โมนิก้า ในทางเดินแคบ ๆ มีร้านนั่งดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากมายที่ไม่ควรพลาด
และนี่ก็เป็นสิบย่านภายใน โตเกียว เห็นได้ชัดเจนว่าเพียงเมืองเดียวก็มีสถานที่ที่น่าสนใจมากมายเลยใช่ไหมคะ อย่าเพิ่งคิดถึงเมืองอื่น ๆ เลย แค่ที่เดียวเที่ยว 3 วันยังไม่พอเลยค่ะ 555 ที่โตเกียวนอกจากจะเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ วัฒนธรรมที่โดดเด่นจนใคร ๆ ก็หลงใหลแล้ว ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเทรนด์ทันสมัยรอบด้านเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การแต่งกาย ร้านอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า เทคโนโลยีต่าง ๆ รวมไปถึงสินค้าที่น่าสนใจอีกเยอะมากเลย ใครที่จะไปเที่ยวโตเกียวก็ลองดูที่เที่ยวตามนี้ได้เลยค่ะ เผื่อมีสถานที่ที่ถูกใจ อ้อ แล้วก็อย่าลืมซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มด้วยนะคะ เชื่อได้เลยว่าต้องมีของติดไม้ติดมือกลับมาแน่นอน
_____
ติดตาม Inzpy ได้ที่
Website:
https://inzpy.com/travel/
Youtube:
https://www.youtube.com/c/Inzpy
Facebook:
https://www.facebook.com/inzpyth
