The Divine Fury มือนรกพระเจ้าคลั่ง
The Divine Fury ภาพยนตร์แนว Action – Horror จากผลงานการกำกับของ คิม จูฮวาน (Jason Kim) ที่เล่าเรื่องราวของ “ยงฮู” (รับบทโดย พัค ซอจุน) นักกีฬา MMA (Mix Martial Art) ผู้ที่ไร้ศรัทธาในทุกสิ่งบนโลกนอกจากตัวเอง แต่อยู่ ๆ เขาก็มีแผลซึ่งเป็นเหมือนรอยการโดนตรึงไม้กางเกงของพระเยซู
จนเขาต้องไปพบกับบาทหลวง “บาทหลวงอัน” (รับบทโดย อัน ซองกิ) เพื่อรักษาอาการนั้น แต่ก็กลายเป็นผู้ช่วยชีวิตบทหลวงอันจากการปราบผี นั่นทำให้เขาได้รับรู้ถึงพลังจากฝ่ามือที่เป็นแผลของเขา และเริ่มทำให้เขาช่วยเหลือผู้คนที่โดนปีศาจเข้าสิง จนทำให้ไปเจอกับ “จอมมารจีชิน” (รับบทโดย อู โดฮวาน) ปีศาจชั่วร้ายที่หวังจะใช้มนุษย์เป็นเครื่องมือสู่ความชั่วร้าย
ภาพยนตร์ที่นำเรื่องของความเชื่อและความ Action มายำกันได้แบบลงตัว
ในระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง 3 นาทีของภาพยนตร์ได้นำเรื่องราวของความเชื่อในพระเจ้า การทำพิธีไล่ผี และความเป็น Action มายำรวมกันได้แบบลงตัว เพราะได้มีการปูเรื่องราวมาให้เราได้อย่างชัดเจนว่าทำไมคนคนหนึ่งที่สิ้นในศรัทธาของพระเจ้า อยู่ ๆ ถึงมีพลังที่จะมีแต่ผู้ศรัทธาแรงกล้าเท่านั้นถึงจะมีได้
ทั้งยังมีการผูกเรื่องเข้ากับการทำพิธีกรรมแบบของวัฒนธรรม จากการร่างทรงเด็กได้ทำนายให้ยงฮู ไปหาบาทหลวงอันที่จะสามารถช่วยตอบปัญหาเรื่องแผลที่มือของเขาได้ จนทำให้ยงฮูได้เข้าไปช่วยเหลือบาทหลวงอันจากการถูกปีศาจทำร้าย และทำให้เขาได้รับรู้ถึงพลังจากแผลที่ฝ่ามือของคนเอง และบาทหลวงอันได้บอกกับยงฮูว่าเป็นแผลที่จะมีในผู้ที่ศรัทธาในพระเจ้ามาก ๆ เท่านั้น
ซึ่งแน่นอนแหละว่านอกจากจะทำให้ตัวละครยงฮูในเรื่องสงสัยแล้ว มันก็ยังทำให้คนดูสงสัยเหมือนกับตัวละครว่า เอ้า ! แล้วทำไมแผลนี้ถึงเกิดกับยงฮูล่ะ เพราะจะเห็นได้ว่ายงฮูไม่ศรัทธาในพระเจ้าขนาดที่ว่าชกคู่แข่งอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะคู่แข่งนั้นมีรอยสักพระเยซูอยู่บนหลัง แต่คำตอบของบาทหลวงอันก็ทำให้ได้รู้ว่า ที่ยงฮูไม่ศรัทธาในพระเจ้าเพราะความโกรธแค้นที่มีต่อพระเจ้า แต่ความโกรธแค้นนั่นแหละที่ทำให้รู้ได้ว่ายงฮูยังเชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง
ทำให้เรามองว่าเป็นจุดแข็งของภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ๆ ที่มีการเล่าเรื่องของความเชื่อในต่างมุมมองได้อย่างกลมกล่อม ผ่านตัวละครของยงฮูอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป จนทำให้เรารู้สึกและเข้าใจถึงความรู้สึกของตัวละครตัวนี้จริง ๆ แถมยังเอาศิลปะการต่อสู้ซึ่งเป็นอาชีพของตัวเอกมาผสมผสานกับการกราบภูตผีปีศาจได้แบบลงตัว (ยอมรับตามตรงว่าตอนดูรู้สึกเหมือนดูหนัง Action กึ่งแฟนตาซีซะมากกว่าที่รู้สึกดูหนังปราบผี)
แต่รู้สึกเป็นจุดอ่อนของเรื่องนี้คือตัวละคร จอมมารจีชิน ออกตัวเลยว่าไม่ได้หมายถึงความสามารถด้านการแสดงของอู โดฮวาน นะแต่หมายถึงตัวละครในเรื่องที่เรารู้สึกว่าไม่มีที่มาที่ไป มาแบบงง ๆ แล้วก็ตายไปแบบงง ๆ และถึงจะบอกว่าเป็นการนำความเป็น Action มาผสมผสานกันได้แบบลงตัว แต่ช่วงสุดท้ายกลับทำให้รู้สึกว่าเป็นฉากต่อสู้ที่ไม่ค่อยถึงใจเท่าไหร่ และด้วยเราคาดหวังว่าตัวละครจอมมารจีชินจะร้ายและโหดสุด ๆ แต่กลับตายไปง่าย ๆ ซะอย่างนั้น แถมยังดูเป็นการต่อสู้แบบธรรมดา มากกว่าจะเป็นการปราบปีศาจ
ให้คะแนนความน่าดูจาก Inzpy
The Divine Fury เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของความเชื่อ ความศรัทธาได้อย่างน่าสนใจ บวกกับการนำความเป็นแนว Action มาผสมได้แบบลงตัว และเหล่านักแสดงทั้งอย่าง พัค ซอจุน / อู โดฮวาน / อัน ซองกิ ก็ถือได้ว่าแสดงได้อย่างสมฝีมือนักแสดงแนวหน้าของเกาหลี ถึงแม้จะเสียดายบทบาทของตัวละครที่อู โดฮวานรับบทอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ขอแนะนำให้ดูกัน คะแนนความดูจากเราอยู่ที่ 8/10 ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นเพียงการรีวิวจากความเป็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น คนอ่านสามารถไปสัมผัสเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ที่ Netflix เลยนะ 🙂