The Last Duel ชะตาชีวิตจากความเมตตาของพระเจ้า
The Last Duel หรือที่มีชื่อไทยว่า ดวลชีวิต ลิขิตชะตา ภาพยนตร์ที่ทำการดัดแปลงมาจากหนังสือ The Last Duel: A True Story of Trial By Combat in Medieval France ในปี 2004 ของนักเขียน Eric Jager ซึ่งเล่าถึงเรื่อง The last judicial duel in France : เหตุการณ์จริง คดีสไคว์รข่มขืนเลดี้เมียอัศวิน ที่นำมาดัดแปลงและเขียนบทโดยสองนักแสดงในเรื่องอย่าง Matt Damon และ Ben Affleck ร่วมกับ Nicole Holofcener และภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ Ridley Scott ผู้กำกับมากฝีมือนั่นเอง
The Truth according to…..
The Truth according to….. ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการเล่าและดำเนินเรื่องแบบการบอกเล่าความจริงจาก 3 มุมมองของตัวละครในเรื่อง ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้อ่านหนังสือไปทีละตอนตั้งแต่บทเกริ่นนำ จนไปถึงบทสรุปสุดท้าย โดยเริ่มจาก
1. Chapter One – The Truth according to Jean De Carrouges อัศวินลูกชายของเจ้าเมือง Belleme สามีของ Lady Marguerite
2. Chapter Two – The Truth according to Jacques Le Gris สไคว์รคนโปรดของ Count Pierre d’Alençon เพื่อนรักเพื่อนร้ายของ Jean De Carrouges ที่ถูกกล่าวหาว่าขืนใจภรรยาของเพื่อนตัวเอง
3. Chapter Three – The Truth according to The Lady Marguerite ภรรยาสาวคนสวยของ Jean De Carrouges สตรีทผู้ไม่ยอมนิ่งเฉยต่อสิ่งที่ตนถูกกระทำ
The Last Duel ได้เล่า “ความจริง” จากมุมมองของตัวละครแต่ตัว โดยที่อาจจะให้น้ำหนักของความจริงใน Chapter สุดท้ายของ The Lady Marguerite มากกว่า นั่นอาจจะทำให้ผู้ชมเชื่อได้อย่างสนิทใจในตอนจบสุดท้ายว่าใครกันแน่ที่พูดความจริง
เส้นเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสในปี 1386 รัชสมัยของ King Charles VI หรือ Charles the Mad ซึ่งแสดงในเห็นถึงประวัติศาสตร์รูปแบบสังคมอันโหดต่อผู้หญิงในยุคนั้น ที่ถูกมองเป็นเพียงทรัพย์สมบัติของสามีมากกว่าจะเป็นตัวของพวกเธอเองด้วยซ้ำ
เพราะจากที่ตัวละคร Lady Marguerite จะไม่สามารถไปฟ้องร้องในคดีข่มขืนที่เกิดขึ้นกับตัวเธอได้ถ้าหากสามีไม่ดำเนินเรื่องให้ เนื่องจากกฎหมายในยุคนั้น ไม่ได้มองว่าการที่ผู้หญิงถูกล่วงเกินหรือละเมิดรุกรานสิทธิ์ของพวกเธอเป็นอาชญากรรม แต่มองว่าเป็นการทำให้สามีเสื่อมเสียเกียรติยศและชื่อเสียง หรือเป็นการละเมิดสมบัติของสามีเท่านั้น
การไต่ตวนหาความจริงจึงเกิดขึ้น บนความกดดันและยังคงเต็มไปด้วยความเหยียดหยามฝ่ายหญิง และเมื่อยังหรือ “ความจริง” ไม่ได้ Jean De Carrouges จึงมีการประกาศขอดวลกับ Jacques Le Gris เพื่อให้พระเจ้าได้ตัดสิน ว่าฝ่ายใดที่ชนะฝ่ายนั้นพูดความจริง แต่เรื่องตลกร้ายคือถ้าหาก Jacques Le Gris ซึ่งเป็นจำเลยชนะ Lady Marguerite จะต้องถูกเผาให้ตายทั้งเป็นไปด้วย บนความที่เหมือนจะออกตัวปกป้องภรรยาตัวเองของ Jean De Carrouges นั้นแท้จริงแล้วเป็นแค่การปกป้องเกียรติยศของตนเองเท่านั้น
ให้คะแนนความน่าดูจาก Inzpy
ด้วยการดำเนินเรื่องราวที่เล่าเป็น 3 องก์ ผ่านมุมมองตัวละครทั้ง 3 ตัว ในระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมง บอกตรง ๆ ว่าแอบมีจังหวะหาวบางเหมือนกันเพราะในเราต้องเจอฉากเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ในบางฉากถึง 3 รอบ แต่แน่นอนว่าบนความซ้ำซ้อนจากการเล่าเรื่องของแต่ละ Chapter นั้น ทำให้เราค่อย ๆ มองเห็นลักษณะนิสัย ความคิดความอ่านของตัวละครเปลี่ยนไป และทำให้เรามีความรู้สึกต่อตัวละครเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเรามองว่าตรงนี้เป็นจุดแข็งของการเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้มาก
ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือการแสดงของ Jodie Comer ที่ทำให้เรารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของผู้หญิงในยุคนั้นจริง ๆ และการแสดงจุดยืนที่แน่วแน่และเข้มแข็งของเธอ ที่ต้องการปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง ที่ชอบที่สุดคือเธอทำให้เรา “เชื่อ” ในความจริงของเธอได้อย่างไม่มีข้อข้องใจเลย
เอาเป็นว่าภาพยนตร์เรื่อง The Last Duel ถือเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ควรไปรับชมกันเลย ด้วยบทภาพยนตร์ที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริง การรวมกันเขียนบทของ Matt Damon / Ben Affleck / Nicole Holofcener และการกำกับของ Ridley Scott รวมทั้งนักแสดงนำมากฝีมือทั้งหลาย
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ไม่ต้องเชื่อเราทั้งหมดนะ เอาเป็นว่าลองไปหาความจริงกันเองได้แล้วผ่านทาง Application Disney+ นั่นเอง ช่วยกันสนับสนุนช่องทางถูกลิขสิทธิ์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมทำภาพยนตร์และเหล่านักแสดงกันนะ 🙂