หวานหยดตลอดเวลา และล่าสุดได้ขอแต่งงานกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ ทูพี และ เลดี้ปราง ทำเอาแฟน ๆ เฮกันยกใหญ่ และเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ว่า หนังเรื่องบางเรื่องหากกลับมาดูใหม่มันก็ไม่ได้จบแบบเดิมเสมอไป
ซึ่งมันยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกสำหรับทั้งสองคน และแฟนคลับ เมื่อ Two pee ได้ปล่อยเพลงใหม่โดยมี Ladiiprang มาร่วม Feat. ในเพลงที่ชื่อว่า “Always You” ที่ความหมายมันชัดเจนในตัวของมันเองอยู่แล้ว
และยิ่งเขินและฟินหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อหลาย ๆ คนที่รอ Vlog จากช่องของทางโต้งเอง หรือจะช่องของใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขอแต่งงานในครั้งนี้ (เหมือนที่คนเขียนเองก็รอ) เพื่อที่จะได้ชมบรรยากาศการขอแต่งงาน ซึ่งก็ได้ชมกันในเพลงนี้นี่แหละ!
Always You – TwoPee Feat. เลดี้ปราง เพลงที่ยืนยันความรักของทั้งสองคน
สำหรับเพลงนี้ผู้เขียนนั่งฟัง และนั่งดู MV อยู่หลายรอบเพื่อเก็บรายละเอียดทุกอย่าง นั่งอ่าน lyric (เนื้อเพลง) พร้อมร้องตาม มันคือเพลงที่ดีมาก เพราะมาก เนื้อร้องทุกท่อนคือการบ่งบอกและยืนยันถึงความรักของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่านี่แหละคือบทสรุปเรื่องราวของพวกเขาในพาร์ทของการเป็นแฟนกัน
“เคยรักยังไงก็รักอย่างงั้นมาตั้งแต่วันแรก ขอบคุณที่รักในวันที่ No one care” ท่อนนี้ของโต้ง คือการยืนยันว่าตั้งแต่วันแรกจนเลิกรากันไป และกลับมารักกันใหม่ โต้งก็ยังคงรักปรางอยู่อย่างนั้น และต้องขอบคุณที่ยังรักกันแม้จะไม่ได้อยู่เคียงข้างกัน (No one care ผมตีความว่าประมาณนี้ครับ)
“ให้กลับไปวันนั้นอีกกี่ครั้ง ก็ยังจะเลือกรักเธอทุกครั้ง ไม่มีใครทั้งนั้นที่ใจฉันต้องการ ให้โอกาสได้คิดใหม่กี่ครั้ง ก็จะบอกว่ารักเธอทุกครั้ง ก็เพราะเธอนั้น มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ยังไงก็คือเธอ”
ท่อนฮุคจาก เลดี้ปราง อันนี้คือตรงตัว สมกับเป็นท่อนฮุค ที่อัดเข้าไปกลางใจ เพราะหากย้อนกลับไปวันแรก หรือว่าให้โอกาสเลือกใหม่อีกครั้ง ยังไงก็คือทูพี โย่ว
แล้วเสียงของ Ladiiprang นั้นบอกได้แค่ว่า “คุณภาพ” ครับ ร้องเพลงเก่งอยู่แล้ว แล้วเพลงนี้ร้องแบบเป็นตัวเอง ปล่อยอารมณ์ออกมาเต็มที่ ยิ่งฟัง ยิ่งดู ยิ่งเขิน ยิ่งตื้นตัน ยิ่งติดตามความรักของทั้งคู่มาตลอด ยิ่งรู้สึกอิน โดยเฉพาะในตอนท้ายของ MV (ไปดูเอง)
เส้นทางความรักของทั้งสองคน
เรื่องราวของ โต้ง-ทูพี และ ปราง-กัญญ์ณรัณ นั้นเริ่มต้นมากกว่า 10 ปี เรียกว่าตั้งแต่สมัยที่ทั้งคุ่ยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ซึ่งปรางได้เล่าไว้ว่า โต้งเป็นคนที่เข้ามาจีบ ซึ่งก็คุยกันไปซักพักใหญ่ ๆ โต้งก็ถามว่า “คุยกันมาขนาดนี้ เป็นแฟนกันได้หรือยัง ?” ซึ่งปรางก็ตอบกลับเพียงแค่ อืม ด้วยความเขิน
แต่ด้วยความที่ทั้งคู่เปรียบเสมือนวงกลมสองวงที่มีเพียงตรงกลางที่ collab กันเพียงเล็กน้อย เพราะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันคนละแบบ ผู้ชายที่ใช้ชีวิตกลางคืน 4 ทุ่มออกจากบ้านไปทำเพลง ไปร้องเพลง ส่วนผู้หญิงคุณแม่เข้มงวดมากกกก มีเคอร์ฟิวต้องเข้าบ้าน 4 ทุ่ม
ซึ่งฝั่งของปรางเองก็พยายามที่จะปรับ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ไหว เพราะตัวของเลดี้ปราง นั้นก็ต้องทำงาน และมีความฝัน ความตั้งใจของตัวเอง สุดท้ายมันก็ระเบิดออกมา และต้องเลิกรากันไปหลังคบกันมาได้ 4 ปี
โดยมันเป็นช่วงเวลา 2 ปีที่ว่างเปล่า ทั้งคุ่ไมได้พูดคุย หรือเป็นเพื่อนกันแต่อย่างใด แม้จะมีวนเวียนมาเจอกันบ้างตามงานต่าง ๆ แบบห่างเหิน แต่สุดท้ายเมื่อคนมันจะต้องได้คู่กัน มันก็ต้องคู่กันอยู่วันยังค่ำ เมื่อวันหนึ่ง เลดี้ปราง ได้บังเอิญเจอเข้ากับโต้ง แต่เธอนั้นพยายามที่จะหลบหน้า
ก่อนที่จะเก็บเอามารู้สึกผิดในทีหลังจะได้ส่งข้อความไปขอโทษ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเคลียร์ใจ และกลับมาพูดคุยกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการ และสุดท้ายคำถามเดิม คำตอบแบบเดิม คือ “เป็นแฟนกันได้ยัง ?” และ “อืม” อันเป็นจุดเริ่มต้นการรีเทิร์นอย่างเป็นทางการ
และความรักของทั้งคู่ก็ยืนยาวมันจนถึงปฎิทินปีที่ 10 ทั้งคู่มีคิวไปทัวร์นิวยอร์กด้วยกัน (บรรยากาศดูได้ใน MV) และที่นี่เองที่ TwoPee ได้คุกเข่าขอ Ladiiprang แต่งงาน หลังจากที่ตัวของฝ่ายชายได้ซื้อบ้าน และทำบ้านอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งก็มีฝั่งของปรางไปช่วยคิด ช่วยดู และช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถดูได้จากช่องของ TwoPee Southside
และหากคุณเคยได้ยินวลีที่ว่า “การกลับไปคบแฟนเก่า ก็เหมือนอ่านหนังสือเล่มเดิม หรือดูหนังเรื่องเดิม ที่มันจะจบแบบเดิม ๆ” แต่ ทูพี่กับเลดี้ปราง ได้พิสูจน์แล้วว่า “ในบางครั้งหนังสือ หรือหนังมันก็อาจจะมีการเขียนหรือสร้างตอนจบไว้อีกแบบ” หรือในความเป็นจริงแล้วมันอาจจะเป็นภาคต่อที่ทำให้ทุกอย่งามัน Happy Ending ได้
หากทั้งสองคนเชื่อและเคารพความรู้สึกของตัวเอง และรู้ใจของตัวเองว่า ยังไงซะก็ “Always You” เสมอมานั่นเองครับ
Inzpy อาจจะพูดถึงการขอแต่งงานของ Two Pee และ Ladaiiprang ช้าไปซักนิด แต่ส่วนหนึ่งเพราะผมเองอยากที่จะเห็นบรรยากาศารเซอร์ไพร์สในครั้งนี้ก่อน จนได้มาเห็นในเพลงอย่าง Always You ซึ่งเป็นเพลงที่ผมฟังบ่อยมากในช่วงนี้ จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง ฉะนั้นใครยังไม่ฟัง ไปฟังซะครับ
