More

    aespa กลับมาครองชาร์ตทั่วโลก ด้วยมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Whiplash’ กับเพลงแนวเทคโน EDM ครั้งแรก

    ‘วงที่สร้างเพลงฮิตระดับโลก’ aespa (เอสป้า) ปลดปล่อยเสน่ห์สุดเท่และความมั่นใจที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ ผ่านมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Whiplash’ ผลงานใหม่ในรอบ 5 เดือน ต่อจากอัลบั้มเต็มชุดแรก ‘Armageddon’ ที่ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมถล่มทลายจนเป็นกระแสไปทั่วโลก

    โดยครั้งนี้คัมแบ็กมาด้วยคอนเซปต์ ‘รสชาติเหล็ก’ ที่นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดบิวต์ที่พวกเธอได้ท้าทายตัวเองกับการใช้แนวเทคโน EDM เป็นเพลงไตเติล แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางดนตรีอันไร้ขีดจำกัดของ aespa (เอสป้า) วงที่พยายามท้าทายสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

    สำหรับอัลบั้มใหม่ ‘Whiplash’ มีคีย์เวิร์ดที่แข็งแกร่งว่า “‘ฉัน’ ที่มีความเป็นตัวเองจะเป็น ‘Game Changer (ผู้เปลี่ยนเกม)’ ที่เปิดโลกใหม่” ซึ่งเป้าหมายและปณิธานในการทำกิจกรรมโปรโมตอยู่ที่การนำเสนอ “สิ่งที่ยังคงความเป็น เอสป้า มากที่สุด แต่ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึง เอสป้า ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน”

    ในอัลบั้มชุดนี้ประกอบด้วยเพลงหลากหลายแนวทั้งหมด 6 เพลง ได้แก่ เพลงไตเติล ‘Whiplash’, เพลงแนวฮิปฮอปแดนซ์ ‘Kill It’, เพลงแนวอาร์แอนด์บี ‘Flights, Not Feelings’, เพลงแนวฮิปฮอปแดนซ์ ‘Pink Hoodie’, เพลงแนวอัลเทอร์เนทีฟ อาร์แอนด์บี ‘Flowers’ และเพลงแนวป็อปร็อก ‘Just Another Girl’

    โดยเฉพาะเพลงไตเติล ‘Whiplash’ (วิพแลช) ความโดดเด่นอยู่ตรงเสียงเบสที่หนักแน่น เปี่ยมล้นด้วยความรวดเร็ว และจังหวะเฮาส์ เนื้อเพลงถ่ายทอดเสน่ห์อันกล้าหาญของ เอสป้า แสดงความมั่นใจเมื่อพวกเธอหลุดพ้นจากกรอบเดิมๆ พร้อมกำหนดมาตรฐานของตัวเอง และเปลี่ยนแปลงเกมในทุกที่ที่พวกเธอไป อีกทั้งแทร็กที่เรียบง่ายและท็อปไลน์ที่ติดหูยังถูกเติมเต็มด้วยเสียงร้องเท่ๆ และมีเอกลักษณ์ของสมาชิก เพิ่มมิติให้กับประสบการณ์การฟัง

    ที่สำคัญ มิวสิกวิดีโอของเพลงไตเติล ‘Whiplash’ (วิพแลช) ได้ตอกย้ำให้เห็นว่า เอสป้า ที่ถูกกล้องจับภาพนั้น เป็นตัวละครที่มีความอิสระและล้ำอนาคต โดยแสดงออกมาให้เห็นผ่านการที่สมาชิกจับกล้องถ่ายเองและการใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับดนตรี รวมถึงการนำเสนอเสน่ห์สุดเท่และความมั่นใจในฐานะ ‘Game Changer’ (ผู้เปลี่ยนเกม) ที่ควบคุมกลไกและเคลื่อนที่ไปมาในพื้นที่ต่างๆ

    ด้านท่าเต้นสื่อถึง ‘รสชาติเหล็ก’ ที่ทรงพลังมากขึ้นไปอีกขั้น จุดเด่นอยู่ตรงท่าจับคอในท่อนฮุก ที่แม้จะเรียบง่ายแต่ดูสะดุดตา ตลอดจนการแสดงต่างๆ ที่ดูมินิมอลแต่มีความหลากหลาย อาทิ ท่าเต้นที่มีการใช้ไอโซเลชันที่หัวไหล่ และการเคลื่อนไหวที่สอดประสานกับเหล่าแดนเซอร์อย่างลงตัว มอบรู้สึกสนุกราวกับได้เป็นหนึ่งเดียวกับเสียงเพลง

    นอกจากนี้ เพลงฮิปฮอปแดนซ์ ‘Kill It’ มีข้อความเตือนถึงผู้ที่ส่งคำวิพากษ์วิจารณ์อันไร้เหตุผล ผ่านการแร็ปและเสียงร้องที่ทรงพลัง ซึ่งดีเจและโปรดิวเซอร์ IMLAY จาก ScreaM Records ค่ายเพลงแดนซ์ในเครือ SM Entertainment ได้มีส่วนร่วมในการแต่งทำนองและเรียบเรียง, ‘Pink Hoodie’ เพลงฮิปฮอปแดนซ์เกี่ยวกับการรักตัวเองในแบบที่เป็นและมีความมั่นใจ, เพลงอาร์แอนด์บีที่มีเสน่ห์ ‘Flights, Not Feelings’ ผสมผสานเสียงแทร็กที่มีบรรยากาศแบบวินเทจน่าค้นหาเข้ากับเสียงร้องอันชวนฝัน เนื้อเพลงเชิงบวกพูดถึงการละทิ้งความรู้สึกแย่ ๆ และมาใช้ชีวิตให้สนุกสนานอย่างมีอิสระ, เพลงอัลเทอร์เนทีฟ อาร์แอนด์บี ‘Flowers’ ที่มีเสียงริฟฟ์กีตาร์อันสละสลวยอย่างโดดเด่น เนื้อเพลงเปรียบเทียบความรู้สึกตกหลุมรักกับดอกไม้ ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวกับเสียงร้องอันน่าหลงใหล, เพลงป๊อปร็อก ‘Just Another Girl’ ส่งข้อความเตือนอย่างร่าเริงพร้อมปล่อยคนรักที่ทรยศไปด้วยความโล่งใจ

    หลังจากที่มินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Whiplash’ (วิพแลช) ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 สามารถทะยานสู่อันดับต้น ๆ บนชาร์ตเพลงดิจิทัลหลักต่าง ๆ ในประเทศเกาหลีใต้ได้ทันที และครองอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Top Albums ทั่วโลกกว่า 22 ภูมิภาค

    [สั่งซื้อได้แล้ววันนี้] มินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Whiplash’ ของ เอสป้า  https://bit.ly/SMTrueStore_aespa

    รับฟังมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Whiplash’ ของ เอสป้า  https://aespa.lnk.to/Whiplash

    รับชมมิวสิกวิดีโอเพลงไตเติล ‘Whiplash’

    บทความที่น่าสนใจ

    Forbes จัดอันดับให้ “Taylor Swift” ขึ้นแท่นนักดนตรีหญิงที่รวยที่สุดในโลก

    เปิดตัว 7 ศิลปินสุดจึ้ง งานใหญ่ปลายปี “SkyTrain Music Fest” แฟนคลับวอร์มนิ้วรอเลย

    ตัวห่างไกลแต่ “Billkin” ส่งซิงเกิลใหม่ “GOLDEN HOUR” ให้แฟนๆ ฟัง แทนความคิดถึง

    Related Post