More

    โยไคพาเหรด : ขบวนภูตพิศวงจากญี่ปุ่น จากความน่ากลัวที่กลายเป็นคุ้นเคย

    สายมังงะน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า ‘โยไค’ เป็นอย่างดี เพราะโยไคคือภูตญี่ปุ่นในจินตนาการที่น่าดึงดูด และได้อยู่ในห้วงความคิดและจินตนาการของชาวญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษ สามารถเห็นได้จากหลักฐานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพม้วนดั้งเดิม นิชิกิ-เอะ (ภาพพิมพ์สอดสี) ของเล่น และภาพยนตร์ ซึ่งเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้จัดงานนิทรรศการ “โยไคพาเหรด Yokai Parade : ขบวนภูตพิศวงจากญี่ปุ่น” ที่คัดสรรโดย ยุโมโตะ โคอิจิ (ผู้อำนวยการเกียรติคุณ แห่งพิพิธภัณฑ์มิโยชิ โมโนโนเกะ พิพิธภัณฑ์โยไคที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ยุโมโตะ โคอิจิ) เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมโยไค ให้ชาวไทยที่มีความสนใจในตำนานเรื่องเล่าของญี่ปุ่นได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของภูติญี่ปุ่นอย่างละเอียด

    Yokai Parade Poster

    โยไค เป็นส่วนหนึ่งของนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นมายาวนาน เป็นสิ่งที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติและทำให้รู้สึกถึงความเร้นลับ ความน่าตระหนกและความกลัว อย่างไรก็ตาม เมื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนำความเปลี่ยนแปลงหลายด้านมาสู่ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม โยไคเองก็เปลี่ยนจากสิ่งที่ถูกมองว่าน่าสะพรึงกลัวไปสู่สิ่งที่มีเสน่ห์และเป็นมิตรกับมนุษย์มากขึ้น ในปัจจุบัน เราสามารถสัมผัสถึงความเป็นที่นิยมของโยไคได้อย่างชัดเจน และปฏิเสธไม่ได้ว่าโยไคได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ทรงคุณค่าไม่เพียงแต่กับชาวญี่ปุ่นแต่ยังเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจอีกด้วย

    สัมผัสประสบการณ์และเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมโยไคที่ก้าวผ่านพรมแดนและเป็นที่จับใจของผู้คนทั่วโลกจากความมีเสน่ห์อันไร้ข้อจำกัดด้านกาลเวลา เป็นที่สังเกตได้ว่าเหล่าภูตพิศวงเหล่านี้ได้พิสูจน์ถึงความยืนหยัดของตนเองอันสอดคล้องเชื่อมโยงกับญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันอันสะท้อนผ่านแง่มุมต่างๆนานา อาทิ ด้านความคิด ความเชื่อ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ไม่ว่าจะเป็นแฟนนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นหรือความหลงใหลในเหล่าโยไค นิทรรศการ “โยไคพาเหรด : ขบวนภูตพิศวงจากญี่ปุ่น” จะพาทุกท่านร่วมเดินทางค้นหาแก่นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นผ่านขบวนภูตพิศวงที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ไปพร้อมกัน

    นิทรรรศการ แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ

    Yokai Parade ส่วนที่ 1 : โลกอันตระการตาของภาพม้วนโยไค

    นิทรรศการส่วนนี้จัดแสดงภาพม้วนโยไคหลากชนิดในสมัยเอโดะ ชิ้นงานที่โดดเด่น คือ ภาพม้วนขบวนราตรีร้อยอสูร หรือ เฮียกกิ ยาเกียว เอมากิ ที่ดึงดูดความสนใจผู้คนทั่วโลก พร้อมนำเสนอผลงานที่หลากหลาย เช่น ภาพวาดโยไคที่ดูขบขันอันแสดงท่าทางเสมือนราวกับเป็นมนุษย์ หรือหนังสือภาพสารานุกรมที่แจกแจงโยไคแต่ละประเภท โดยสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการได้รับความนิยมที่กว้างขวางของภาพม้วนโยไคในสมัยนั้น

    ส่วนที่ 2 : โลกที่เปี่ยมด้วยสีสันสดใสของเหล่าโยไค

    ส่วนนี้เป็นการมองผลกระทบของการเกิดภาพพิมพ์ไม้หลากสีที่มีต่อวัฒนธรรมโยไค โดยพัฒนาการภาพพิมพ์ไม้นี้ ทำให้เกิดการผลิตซ้ำที่ไม่เพียงแต่จะสามารถเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นแต่ยังมีราคาที่จับต้องได้ แต่ยังทำให้ผู้คนมีความคุ้นเคยกับโยไคมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิด นิชิกิ เอะ หรือภาพสอดสีทำให้เกิดอุปสงค์เพิ่มมากขึ้นและต้องการเนื้อหาที่หลากหลายขึ้น จนทำให้โยไคมีความใกล้ชิดกับผู้คนมากขึ้นด้วย

    ส่วนที่ 3 : โยไคและเกม

    เนื่องจากความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของโยไคในด้านงานพิมพ์ ทำให้ช่องว่างระหว่างโยไคและผู้คนแคบลง คนรู้สึกเกรงกลัวโยไคน้อยลง และยังพัฒนาความรู้สึกใกล้ชิดหรือแม้กระทั่งความรักความเอ็นดูต่อโยไค ส่วนนี้จะชี้ให้เห็นถึงการกำเนิดโยไคที่ดูค่อนข้างเป็นมิตร ที่สามารถเห็นได้ผ่านเกมและของเล่นญี่ปุ่นต่างๆ นานา

    ส่วนที่ 4 : โยไคพาเหรด ที่สืบทอดต่อมาในยุคปัจจุบัน

    สมัยเมจิ โยไคกลายมาเป็นศาสตร์วิชาที่เป็นระบบโดยอิโนะอุเอะ เอ็นเรียว นักพุทธปรัชญาได้ก่อตั้ง “โยไคศึกษา” และยานางิตะ คุนิโอะ นักคติชนวิทยา ได้ศึกษาโยไคอย่างลึกซึ้งมากขึ้นผ่านความเชื่อและความคิดของชาวญี่ปุ่น และสภาพแวดล้อมที่อยู่เบื้องหลังของการสร้างสรรค์นั้น แม้ว่าวัฒนธรรมโยไคจะห่างหายไปช่วงเวลาหนึ่งในยุคสงคราม นิทรรศการส่วนสุดท้ายนี้จะแสดงให้เห็นถึงพลวัตรความนิยมของโยไค ที่เราสามารถเห็นได้จากของเล่นสะสมที่และภาพปรากฎที่ไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไปในมังงะ เอนิเมะ เกมต่างๆ ทั้งในญี่ปุ่นและการแพร่ขยายไปยังประเทศอื่นๆ

    นิทรรศการ โยไคพาเหรด : ขบวนภูตพิศวงจากญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมฟรี ที่ห้องแกลอรี่ชั้น 1 TCDC กรุงเทพฯ อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง บางรัก กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 28 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.30 น. – 19.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

    Credit Photo: Japan Foundation

    บทความที่น่าสนใจ

    รู้จัก ‘The Cloud Ah Q’ เมฆตัวกลม น่ารักน่าเอ็นดู แห่งไต้หวัน

    Live Love Lives เพราะสิ่งของแต่ละชิ้นล้วนมีเรื่องราว

    “A Cold Day in July” นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในรอบ 7 ปี ของ Art Jeeno

    Related Post