MUJI ประเทศไทย ต่อยอดแนวคิดความยั่งยืนสู่สินค้าแฟชั่น ชูวัสดุ เส้นใยกัญชง เส้นใยถักทอความยั่งยืน ทางเลือกใหม่สำหรับเสื้อผ้า
มูจิ ประเทศไทย แสดงจุดยืนแนวคิดด้านความยั่งยืนสู่สินค้าแฟชั่นด้วยการใช้ “เส้นใยกัญชง” (Hemp) วัสดุสิ่งทอแห่งอนาคตถักทอความยั่งยืน จากกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่รักษ์โลกมากกว่าเดิม ด้วยความที่ต้นใยกัญชงมีวงจรการเพาะปลูกที่สั้น เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ไว ใช้ทรัพยากรในการดูแลน้อยกว่า และไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยหรือสารเคมีเร่ง ก็เจริญเติบโตได้ดี
อีกทั้งยังเป็นเส้นใยที่มีคุณสมบัติตามธรรมชาติที่เหมาะกับการทำเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มองหาสินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมประเดิมเปิดตัว HEMP Collection เครื่องแต่งกายคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุด จากเส้นใยป่าน หรือใยกัญชง โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ สัมผัสบางเบา สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับอากาศร้อน ที่มาพร้อมกับดีไซน์ซิกเนเจอร์สไตล์ MUJI ที่ใส่ได้ทุกโอกาส ต้อนรับซัมเมอร์นี้ โดยวางจำหน่ายแล้วที่ร้านทุกสาขา
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า สินค้าเครื่องแต่งกายและแฟชั่นเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่นับเป็นซิกเนเจอร์โปรดักส์ ที่สามารถครองใจผู้บริโภคมาโดยตลอด ด้วยเอกลักษณ์ของการดีไซน์ที่กลายเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นสไตล์มินิมอล ด้วยความเรียบง่าย แต่ดูทันสมัย สามารถหยิบมาสวมใส่ได้ในทุกโอกาส
ซึ่งปัจจุบันสินค้าเครื่องแต่งกายมียอดขายเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับกลุ่มสินค้าอื่น ๆ ผนวกกับการที่ทางแบรนด์ได้เปิดตัวสินค้าและแคมเปญต่าง ๆ ที่ตอกย้ำด้านความยั่งยืน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เนื่องจากปัจจุบันความยั่งยืนเป็นหนึ่งในเทรนด์ของการเลือกสินค้าหรือ Core Value ของผู้บริโภคที่คาดหวังจากแบรนด์ ส่งผลให้ทางแบรนด์มุ่งหน้าพิสูจน์และยึดถือการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ยิ่งไปกว่านั้น คุณสมบัติตามธรรมชาติของเส้นใยกัญชงเหมาะสำหรับการนำมาเป็นวัสดุในการผลิตสิ่งทอ เครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะการสวมใส่ในประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศร้อนชื้น เนื่องจากเป็นเส้นใยที่ถึงแม้ว่าจะมีความคงทนในการใช้งาน แต่มีสัมผัสที่นุ่มเบา ระบายน้ำ และถ่ายเทอากาศได้ดี รวมถึงมีคุณสมบัติตามธรรมชาติในการช่วยปกป้องรังสียูวี ดังนั้นเมื่อนำเส้นใยป่านมาผลิตเป็นสิ่งทอเครื่องแต่งกาย จึงช่วยปกป้องสีของเนื้อผ้าที่อาจจะจางลงจากแสงแดด
ด้วยเหตุทั้งหมดที่กล่าวมา ในฤดูกาล Spring/Summer นี้ ทางแบรนด์จึงได้ทำการเปิดตัว HEMP Collection เครื่องแต่งกายคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดจากเส้นใยป่าน หรือใยกัญชง นับว่าเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์บนเส้นทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของแบรนด์
สำหรับ HEMP Collection เครื่องแต่งกายคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดจากเส้นใยกัญชง ออกแบบภายใต้แนวคิด Cool, Soft to the Skin, Natural Fabric for Sustainability โดดเด่นด้วยคุณสมบัติพิเศษของใยกัญชง ที่สวมใส่เย็นสบาย ระบายอากาศได้ดี และเนื้อผ้าแห้งเร็ว เหมาะสำหรับฤดูร้อน รวมถึงสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย
ผสานกับดีไซน์ซิกเนเจอร์ที่มีความเรียบแต่สุภาพ นำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ง่าย สวมใส่ได้ทุกโอกาส เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทย และคนเมืองวัยทำงานที่สามารถสวมใส่เป็นชุดทำงานหรือใส่ออกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกบ้านได้อย่างคล่องตัว
คอลเล็กชั่นถูกออกแบบมาในโทนสีดีไซน์แบบร่วมสมัยคลาสสิกเหนือกาลเวลา ผลิตด้วยวัสดุเส้นใยที่มีคุณสมบัติทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงทำให้เป็นคอลเล็กชั่นที่สามารถหยิบมาสวมใส่ได้ตลอด ซึ่งนับว่ามีส่วนช่วยในการลดปัญหาขยะจากเครื่องแต่งกายได้อีกด้วย
โดย HEMP Collection ประกอบไปด้วยเสื้อผ้าหลากหลายดีไซน์ ทั้งเครื่องแต่งกายผู้หญิง อาทิ เสื้อเชิ้ตทูนิค เสื้อเบลาส์ เดรส กางเกงขายาวและขาสั้น และกระโปรง เครื่องแต่งกายผู้ชาย อาทิ เสื้อแจ็กเก็ต กางเกงขายาวและขาสั้น และเสื้อเชิ้ตทรงเบสิก หลายสีสัน อีกทั้งยังมีสินค้าสำหรับเด็กอีกด้วย
สามารถตามไปสัมผัสเสื้อผ้าเย็นสบาย สัมผัสบางเบา แห้งไว จาก HEMP Collection ทางเลือกใหม่ของแฟชั่น ถักทอจากเส้นใยที่ยั่งยืน วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านทุกสาขาทั่วประเทศ
ศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
Facebook: MUJI Thailand
Instagram: MUJI_Thailand
LINE Official Account: @MUJIThailand
เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคนกับ HEMP Collection ทางเลือกใหม่สำหรับเสื้อผ้าจาก MUJI นอกจากจะมีดีไซน์สวยงามทันสมัยแล้ว ยังผ่านกระบวนการผลิตแบบรักษ์โลกอีกด้วยนะ สาวกแบรนด์หรือใครที่สนใจ ลองตามไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันนะคะ วันนี้ทางเราคงต้องลาไปก่อน อย่าลืมติดตามในคราวหน้าว่า Inzpy จะเอาข่าวล่าสุดในวงการแฟชั่นแบบไหนมาฝากทุกคนอีก ฝากติดตามด้วยนะคะ 😉
ติดตาม Inzpy ได้ที่
Website: https://inzpy.com/
Youtube: https://www.youtube.com/c/Inzpy
Facebook: https://www.facebook.com/inzpyth