More
    spot_img

    LALEILMANINO and JKT48 เปิดแคมเปญชวนชาวเจนซีร้องเพลงไปด้วยกัน

    LALEILMANINO and JKT48 เปิดแคมเปญชวนชาวเจนซีร้องเพลงไปด้วยกัน

    Cr. Photo : BeraniBersuara

    กระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศ (Ministry of Communications and Informatics หรือ MCI) ของอินโดนีเซีย ผ่านขบวนการรู้ดิจิทัลแห่งชาติ (GNLD) หรือ “ซิเบอร์เครอาซี” (Siberkreasi) ได้ร่วมมือกับลาเลย์มานิโน (LALEILMANINO) และเจเคทีโฟร์ตีเอต (JKT48) ในการเปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการรู้ดิจิทัลใหม่ล่าสุดอย่าง #BeraniBersuara แคมเปญนี้มีเนื้อเพลงฟังง่าย เพื่อให้ความรู้แก่คนรุ่นใหม่ในอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเจนซี (Gen Z) ให้รู้ทันโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น พร้อมสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่สร้างสรรค์ มีจรรยาบรรณ และปลอดภัย

    ลาเลย์มานิโนได้แต่งเพลงใหม่อันไพเราะให้แคมเปญนี้ว่า “Berani Bersuara <3<3” ซึ่งปล่อยให้ฟังในวันที่ 27 พฤษภาคม โดยมีไอดอลกรุ๊ปชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นอย่างเจเคทีโฟร์ตีเอตเป็นคนร้องเพลงนี้ การเปิดตัวเพลงนี้จะตามมาด้วยแคมเปญ “Duet Bareng JKT48” เพื่อเชิญชวนให้ชาวเจนซีร้องเพลงคู่กับเจเคทีโฟร์ตีเอตและลาเลย์มานิโนบนโซเชียลมีเดีย เช่น อินสตาแกรมและติ๊กต็อก เนื้อร้องของเพลงนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและเชื่อมโยงกับเจนซี

    Cr. Photo : BeraniBersuara

    นิโน สมาชิกวงลาเลย์มานิโน กล่าวว่า “เราเชื่อว่าเพลงเป็นสื่อที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ในการย้ำเตือนคุณค่าดี ๆ ที่เรามักมองข้าม เราหวังใช้บทเพลงที่ค่อนข้างรื่นเริงและสดใส ให้ผู้ฟังเข้าใจข้อความสำคัญที่เราพยายามจะสื่อเมื่อมาในรูปแบบเนื้อเพลงที่สร้างความบันเทิงใจ การใส่อีโมติคอน <3<3 ลงในท้ายชื่อเพลงนั้นเป็นการเล่นคำ hati-hati ซึ่งมีความหมายได้ทั้ง ‘หัวใจคู่’ หรือ ‘สดใสเข้าไว้’ ในภาษาอินโดนีเซีย เพลงนี้สดใสมากแต่ในขณะเดียวกันก็มีความหมายลึกซึ้งด้วย”

    ในขณะเดียวกัน เจเคทีโฟร์ตีเอตได้แสดงความหวังว่า ชาวเจนซีจะแสดงบทบาทของตนในโลกดิจิทัลได้ โดยเชนี (Sheni) หนึ่งในสมาชิกวงเจเคทีโฟร์ตีเอตในฐานะกระบอกเสียงของวง กล่าวว่า “คนรุ่นใหม่และชาวเจนซีกำลังมองหาความบันเทิงและบุคคลต้นแบบบนโซเชียลมีเดีย เราหวังใช้เพลงและการเต้นในการสร้างความประทับใจให้ผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ในอินโดนีเซีย”

    Cr. Photo : BeraniBersuara

    การเปิดตัวแคมเปญนี้มีขึ้นในช่วงวันตื่นรู้แห่งชาติของอินโดนีเซีย ซึ่งตรงกับวันที่ 20 พฤษภาคม และเป็นไปตามคำสั่งของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ในการปลุกจิตวิญญาณความสร้างสรรค์ของชาวเจนซีในอินโดนีเซีย เพื่อสร้างคอนเทนต์พลังบวกและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์มดิจิทัล

    เฝ้าดูชาวเจนซีของอินโดนีเซีย

    ข้อมูลสถิติจากบิสิเนส ออฟ แอปส์ (Business of Apps) เมื่อปี 2563 แสดงให้เห็นว่า ชาวเจนซี 98% มีสมาร์ทโฟนที่มีแอปติ๊กต็อกและสแนปแชทอยู่ด้วย โดยเฉลี่ยแล้ว พวกเขาใช้เวลาวันละประมาณ 4.1 ชั่วโมงในการใช้แอปพลิเคชันออนไลน์ นอกเหนือจากเวลาที่ใช้ไปกับการเล่นเกมออนไลน์

    แม้ชาวอินโดนีเซียจะชอบเล่นโซเชียลมีเดีย แต่ก็อยู่ในอันดับรั้งท้ายในดัชนีความสุภาพทางดิจิทัล (Digital Civility Index) ประจำปี 2563 เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีคะแนนเพียง 76 คะแนน ทำให้ชาวอินโดนีเซียดูวางตัวได้แย่ที่สุดในโลกดิจิทัล ซึ่งคาดว่ามีสาเหตุจากการแพร่ระบาดของการหลอกลวง การฉ้อโกง และความเกลียดชัง ซึ่งมักจะพบและแชร์กันทางดิจิทัลในหมู่คนอินโดนีเซียด้วยกันเอง

    Related Post

    Most Popular

    Recommended