เนื่องใน “วันสตรีสากล” วันนี้เราอยากจะมาพูดถึงหนึ่งในนักร้องสาว ที่เป็นไอคอนของวงการเพลงอีกหนึ่งคน อย่าง Arvil Lavigne ที่หายหน้า หายตาไปนานเหลือเกิน และล่าสุดอย่างที่เราเคยนำเสนอไปแล้ว ในตอนที่เธอปล่อยซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มชุดใหม่อย่าง Bite me ออกมา
ฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูถึง เรื่องราวของเธอ และอัลบั้มใหม่ของเธอที่ชื่อว่า Love Sux กันครับ เพราะ Inzpy เองก็ได้มีโอกาสฟังแบบทั้งอัลบั้มมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันสตรีสากล กับสาวป็อปพังค์ระดับไอคอน
แอวริล ลาวีน เกิดวันที่ 27 กันยายน 1984 ซึ่งเธอเป็นลูกครึ่งแคนาดา/ฝรั่งเศส โดยเซ็นสัญญากับค่ายเพลงอย่างเป็นทางการครั้งแรก คือตอนที่เธออายุ 16 ปี กับสังกัดที่ชื่อว่า เอริสตาร์เรคคอร์ด ทำให้เธอมีรายได้กว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเปิดตัวครั้งแรกตอนอายุ 17 ปี กับอัลบั้มที่ชื่อว่า “Let’s Go” ที่ส่งให้เธอเป็นศิลปินหญิงแนวป็อปพังค์ที่ได้รับความนิยมที่สุด
โดยอัลบั้มแรกของเธอสามารถขายได้ 30 ล้านชุด โดยมีเพลงเด่นอย่าง “Complicated” ที่ขึ้นอันดับ 1 หลายชาร์ตทั่วโลก จากนั้นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 “Under my skin” ก็ถูกปล่อยออกมาในปี 2004 และเป็นอัลบั้มแรกที่ขึ้นอันดับหนึ่งบน Billbroad 200 ซึ่งขายได้มากกว่า 10 ล้านชุดทั่วโลก ซึ่งอัลบั้มนี้ผมชอบเพลง My Happy Ending ที่สุดครับ
จากนั้นอัลบั้มที่ 3 ซึ่งมีเพลงโปรโมทอย่าง Girlfriend เพลงพังค์จ๋าแบบสนุก ๆ ที่โคตรจะติดหูเป็นซิงเกิ้ลแรก ในอัลบั้มที่ชื่อว่า The Best Damn Thing ซึ่งเพลง Girlfriend ที่ว่านี้เองสามารถขึ้นไปติดอันดับ 1 Billbroad Hot 100 ได้สำเร็จ เรียกว่า ชื่อของ แอวริล ลาวีน โด่งดัง และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก คือตอนนั้นเธอดังมากจริง ๆ
ก็คิดดูว่าเพลงของแอวริล สามารถขึ้นไปเป็นอันดับ 1 ของ Billbroad ทั่วโลกได้ถึง 6 เพลงด้วยกัน ได้แก่ Complicated, Sk8er Boi, I’m with You, My Happy Ending, Nobody home และ Girlfriend ซึ่งทั้งหมดที่เธอทำมามันส่งให้เธอเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดของสหรัฐอเมริกา
ปี 2011 อัลบั้มชุดที่ 4 Goodbye Lullaby ก็ถูกปล่อยออกมา และขึ้นไปติด Billbroad 200 ได้อีกครั้ง จากนั้นอัลบั้มชุดที่ 5 ซึ่งใช้ชื่อของเธอเป็นชื่ออัลบั้มก็ปล่อยออกมาในปี 2013 และปี 2019 กับ Head Above Water ที่ได้รับความนิยมลดลงไปในทั้ง 2 อัลบั้มเนื่องจากแนวเพลงที่ค่อนข้างจะเปลี่ยนไปจากเดิม ก่อนที่เธอจะกลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มใหม่ที่เรียกว่าเป็นตัวตนของเธอ
สำหรับ Arvil Lavigne นั้นไม่ใช่แค่ผลงานเพลงเท่านั้น เพราะเธอเองก็เคยแอบพักจากวงการเพลง ไปแสดงภาพยนตร์มาบ้าง หรือการพากย์เสียง “เฮเธอร์” ในแอนิเมชั่น “แก๊งค์สี่ขา ข้ามป่ามาป่วนเมือง” นอกจากนี้ยังออกแบบเสื้อผ้า และน้ำหอมที่ชื่อว่า Blackstar, Forbiden Rose และ Wildrose ออกมา
โดยชีวิตคู่ของ แอวรีลนั้นเธอเคยแต่งานกับ เกริก วิบลี นักร้องนำ และมือกีต้าร์วงพังค์ชื่อดังอย่าง Sum41 ก่อนจะหย่ากันในปี 2009 แต่กระนั้นทั้งคู่ก็ยังทำงานร่วมกัน และปล่อยซิงเกิ้ลที่ชื่อว่า “Alice” ซึ่ง Original Soundtrack ของภาพยนตร์เรื่อง Alice in Wonderland
นอกจากนี้เธอยังแต่งงานอีกครั้งกับนักร้องนำวง Nickleback อย่าง ชาด ครูเกอร์ แต่อยู่ด้วยกัน 2-3 ปี ก็เลิกลากันไปเหมือนเดิม
Love Sux อัลบั้มที่ Arvil กลับมาเป็นตัวเอง
อย่างที่เคยบอกไปครับว่า แอวริล นั้นห่างหายจากการปล่อยอัลบั้มใหม่ไปหลายปี และ 2 อัลบั้มล่าสุดของเธอก็ไมได้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ฉะนั้นครั้งนี้เธอกลับมาก็ทำให้หลายคนลุ้นว่า มันจะเป็นอย่างไร
มันจะพังค์จ๋าแบบที่ทุกคนอยากให้เป็นไหม แล้วการทำงานร่วมกับ Travis Baker สุดยอดศิลปินหัวครีเอทีฟแห่งวงการเพลงพังค์ เราจะได้ฟังและเห็นอะไรบ้าง
และต้องขอบอกว่า Inzpy ร่วมถึงอีกหลายล้านคนทั่วโลกก็ไม่ผิดหวัง กับสิ่งที่เราคาดหวัง (น้อยลง) ครับ กับอัลบั้มชุดที่ 6 ของเธอ Love Sux ที่เปิดตัวมาด้วยเพลง Bite Me ซึ่งเคยฟังและดู MV กันไปแล้ว คุณคงจะรู้ว่ามันพังค์แต่ไหน กลิ่นอายเดิม ๆ กลับมาอีกครั้ง
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมถึง Move on จากแนวเพลงเก่า ๆ จริง ๆ ตรงนี้มันก็มีหลายวง หลายศิลปินนะครับ ที่เปลี่ยนแนวเพลงไป แล้วแฟน ๆ ก็บ่นว่า ไม่ชอบ อย่างงู้นอย่างงั้น อย่างงี้ แต่สุดท้ายถ้าอัลบั้มมันออกมาดีจริง ๆ แนงเพลงจะเปลี่ยนไปขนาดไหนเขาก็รักกัน
แต่สุดท้ายเราก็จะคิดถึงภาพจำแรก ความประทับใจแรก ที่เรียกว่า First Impression อยู่ดี แบบเราชอบเขาเพราะเขาเป็นแบบนี้ ทำเขาเปลี่ยนไป อะไรทำนองนั้น (ฮา)
แต่ Love Sux นี้ มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมครับ คือคงมาการันตีหรอกว่า อัลบั้มชุดนี้จะเป็นงานรางวัลเหมือนยุคพีค ๆ หรือเปล่า แต่มันคือการกลับมาเป็นตัวตน กลับมาเป็นแนวเพลงที่ทำให้เธอโด่งดัง และแฟน ๆ หลงรักครับ
อัลบั้มชุดนี้ แอวริลเหมือนจะรู้แฟน ๆ ต้องการอะไร ทั้ง12 เพลงจึงอัดแน่นไปด้วยซาวด์แบบป๊อปพังค์ สับๆๆ โยกกันแบบนอนสต๊อป ซึ่งเพลงโคตรสนุกเลย สนุก ฉ…บหาย
มันส์ตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้าย เรียกว่าที่พรีเซ้นท์ไว้ว่าจะกลับไปเป็นแบบตอนดังใหม่ ๆ เรื่องโม้แต่อย่างใด และยิ่งได้ Travis มาโปรดิวซ์ให้ด้วยแล้ว บอกเลยว่า สมราคา
สำหรับเนื้อเพลงในอัลบั้มนี้ก้จะ พูดถึงความรัก ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ถูกทิ้ง โดนบอกเลิก แต่ แต่ แต่ กูไม่ยอมเจ็บคนเดียวค่ะ เอ็งจะต้องชดใช้ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย แม้จะโดนแซวบ้างว่า อายุ 37 แฃ้วยังจะอกหักอีกหรอ แต่ขอบอกไว้ครับว่ คนเราไม่แก่เกินเรียนฉันท์ใด ก็ไม่แก่เกินอกหักฉันท์นั้น!!!
ต้องยกเครดิตให้กับ ทราวิส และทีมงานครับอัลบั้ม Love Sux นี้ เรียกว่าช่วยชุบชีวิตแอวริลขึ้นมา ได้ถูกช่วงจังหวะเวลาพอดี เพราะกระแสเพลง ป็อปพังค์กำลังกลับมาบูมพอดี ส่วนตัวของแอวรีล ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ของไอคอนแห่งวงการจริง ๆ ครับ
