More
    spot_img

    รีวิว Buzz Lightyear บอกเลยประทับใจ

    เข้าโรงเป็นที่เรียบร้อย และ Inzpy ก็แอบ ๆ ไปดูมาแล้วเหมือนกัน ฉะนั้นวันนี้เราจะมา รีวิว Buzz Lightyear หนัง spin-off ของเฟรนไชส์ Toy Story ที่มี บัซ ไลท์เยียร์ นักบินอวกาศสุดเหวอเป็นพระเอกของเรื่อง บอกเลยว่าพอดูแล้ว คิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ เลยครับ

    รีวิว Buzz Lightyear

    รีวิว Buzz Lightyear บอกเลยว่า เท่โคตร

    ต้องบอกก่อนว่าหนัง บัซ ไลท์เยียร์เรื่องนี้ คือหนังในภาคภาพยนตร์ Toy Story อีกที คือ Toy Story  เนี่ยจะมีหนุ่มน้อย แอนดี้ ที่เป็นเจ้าของของเล่นทุกชิ้น ทั้งวู้ดดี้ และบัซ ซึ่งสาเหตุที่แอนดี้นั้นชอบ บัซ ไลท์เยียร์ คือเขาได้ดูหนังที่มีบัซ เป็นตัวเอก แล้วรู้สึกชอบมาก ๆ เลยไปซ้อของเล่นมาสะสมไว้ เพียงแต่ตัวหนังนั้นไม่เคยมีการกล่าวถึง จะมีให้เห็นใกล้เคียงที่สุดในเรื่องคือ วิดีโอเกมครับ

    ซึ่งหนัง spin-off เรื่องนี้ ก็คือหนังเรื่องนั้นในภาพยนตร์เรื่อง toy Story นั่นเอง ไม่งงกันใช่ไหม โดยเรื่องย่อของ Buzz Lightyear จะประมาณว่า

    บัซ ไลท์เยียร์ นั้นทำภารกิจใน จักรวาลอันไกลโพ้น แต่เกิดความผิดพลาดและทำให้ตัวเขาและเพื่อน ๆ ต้องติดอยู่ที่ดาวเคราะห์ร้าง ห่างจากโลกถึง 4ล้าน 2แสนปีแสง เขาโทษตัวเอง และพยายามหาวิธีเดินทางกลับสู่โลก แม้ว่าต้องใช้เวลา หลายสิบปีก็ตาม จนเรื่องราวที่แสนประทับใจ แลภารกิจสุดมันส์ ในการพาเพื่อนๆกลับโลกเพื่อเป็น  ผู้พิทักษ์อวกาศ อีกครั้งจึงเริ่มขึ้น

    บอกเลยว่านี่ไม่ใช่หนังที่แบบว่า โห อะไรจะเด็กขนาดนั้น ไม่ใช่เรื่องที่แบบแฮปปี้ แฟมิลี่ เด็ก ๆ ดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี เพราะทั้งเรื่องอุดมไปด้วยกฎฟิสิกส์ การข้ามเวลา และพหุจักรวาลเต็มไปหมด มันคือหนังไซไฟจริง ๆ แต่ว่าตัวหนังก็ไม่ได้ยากอะไร แต่มันมีอะไรในเชิงอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์เยอะ ถ้าไมได้ใส่ใจตรงนี้มาก ก็คือหนังที่สนุกเลยครับ

    ซึ่งตัวหนังบอกลเยว่าทำ บัซ ออกมาได้เท่มาก เท่แบบว่าเข้าใจละทำไมแอนดี้ถึงต้องซื้อฟิกเกอร์ของบัซมาไว้ในครอบครอง มันก็เหมือนกับที่เราอ่านมังงะ ดูหนังฮีโร่ ชอบตัวการ์ตูนตังนั้น รักฮีโร่ตัวนี้ อากเป็นแบบไอรอนแมน หรืออะไรทำนองนั้นเลย เชื่อว่าใครที่อินหนังแนวนี้จะเข้าใจความรู้สึกกันดี

    ในส่วนของเนื้อเรื่อง อันนี้ก็ต้องยอมรับว่าทำออกมาในสไตล์ของสูตรของหนังตลาดทั่วไป มีความเจ็บปวดของตัวหลัก มีการต่อสู้ มีความพยายาม มีทีมเวิร์ค มิตรภาพ การเสียสละต่าง ๆ ฉากซึ้ง และฉากเท่ ๆ ของพระเอก แต่ว่ามันไม่ได้น่าเบื่อเลย ตัวหนังดำเนินไปด้วยความระทึก

    มีการผจญภัย มีการต่อสู้ มีปมต่าง ๆ ให้ต้องแก้ ไม่ใช่หนังที่แบบว่า เบาสมอง แต่ก็ไมได้หนักหัวอะไร ทีมงานนำพาบัซ ไลท์เยียร์ ออกจากคาแรคเตอร์ เหวอ ๆ ของเขาจาก Toy Story เพราะนี่คือ บัซ ไลท์เยียร์ เสืออวกาศ ผู้เก่งกาจและกล้าหาญ เขาคือคนที่นำทีมปราบเหล่าร้ายจนได้รับการยกย่อง

    แต่กระนั้นบัซ ก็เป็นตัวละครที่ยังมีความรั่ว ความฮา และความมุ่งมั่นอยู่เสมอ เพียงแต่อาจจะลดความเปิ่นลงไปบ้าง เพราะถ้าให้พูดในมุมมองว่าหากเราเป็นแอนดี้ นี่คือ ฮีโร่ของเด็กในยุคนั้นอย่างแน่นอน

    ในส่วนของเสียงพากษ์ ที่รับหน้าที่โดย คริส อีแวนท์ บอกเลยว่า เป๊ะ คือฮีโร่ ก็ต้องพากษ์เสียงโดยฮีโร่สิถูกไหม และด้วยความเป็น คริส อีแวนท์ ก็คงต้องยอมรับว่า เขาทำออกมาได้เยี่ยมจริง ๆ ด้วยกลิ่นอายความเป็นผู้ชายหลงยุคและทหารกล้า ก็ทำให้เราอดคิดถึงกัปตันอเมริกาที่เขาเคยเล่นไม่ได้

    ด้านตัวละครสมทบอย่าง อิซซี, โม, ดาร์บี นั้นก็ช่วยเรียกเสียงฮาได้ดี พวกเขาเป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่ใช้ความกล้าเพื่อลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แม้จะมีบางช่วงที่รู้สึกว่าพวกเขาน่ารำคาญอยู่บ้าง แต่เหมือนหนังก็กลัวคนดูคิดแบบนั้นจึงไม่ให้แอร์ไทม์มากมาย และเน้นหนักไปที่ไลท์เยียร์และอีกหนึ่งตัวละครสุดแย่งซีนแทน

    ตัดเกรดเลยแล้วกัน Inzpy ให้ 7/10 หนังสนุก แม้ว่าจะเป็นตามสูตรสำเร็จ แต่ดูแล้วก็คิดถึงวันคืนเก่า ๆ ครับผม

     

    Related Post

    Most Popular

    Recommended